ชี้ระดมพล อปท.ทั่วประเทศ ฟื้นฟู “หาดใหญ่” ระบุ ดินสไลด์ทั่วเทือกเขาบรรทัดบางพื้นยที่พบ 10 จุดเบื้องต้น

นายทวีศักดิ์ ทักษิณาวานิชย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า แผนการฟื้นฟู จ.สงขลา โดยเฉพาะในส่วนเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ในฐานะเมืองหาดใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนการเงินของภาคใต้  ที่ถูกน้ำท่วมหนักสุดและได้เกิดการสูญเสียอย่างมหาศาล

โดยทางภาคเอกชนได้เรียกร้องให้รัฐบาล เร่งฟื้นฟูให้แล้วเสร็จเพื่อให้ทันต้อนรับปีใหม่ 2569 ซึ่งหากลากยาวออกไปจะเป็นการขยายสูญเสียโอกาสที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่จะสูงขึ้นอีก

นายทวีศักดิ์  กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความรวดเร็วคล่องตัวและเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีอยู่ทั่วประเทศทุกจังหวัดอำเภอคือ องค์การบริหารส่วนจำหวัด (อบจ.)  เทศบาล (สท.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)  ประมาณ 7,842 แห่ง โดยการแบ่งพื้นที่บริหารจัดการในการฟื้นฟูเป็นโซน ๆ 

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตรวจพื้นที่เขตอนุรักษพันธ์สัตว์เขาบรรทัด มีพื้นที่ตั้งแต่ จ.พัทลุง ตรัง สตูล และจ.สงขลา) และทราบว่าจากที่ฝนตกต่อเนื่องและหนักในบางพื้นที่ได้เกิดน้ำสะสมเทือกเขาและไม่สามารถอุ้มรับเก็บน้ำได้เหมือนเดิม โดยบางจุดพบเบื้องต้น เช่น พื้นที่บนเทือกเขาบริเวณ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เกิดดินสไลด์ประมาณ 10 จุด แต่ละจุด เฉพาะบางจุดยังไม่เดินทางถึงชั้นในเทือกเขา ประมาณทั้งเทือกเขาบรรทัดจะเกิดจุดดินสไลด์เป็นจำนวนมาก

“ปัจจัยสำคัญที่เทือกเขาไม่สามารถอุ้มเก็บรับน้ำเอาไว้ได้ เพราะสภาพป่าเสื่อมโทรมตามอายุและส่วนหนึ่งถูกลักลอบตัดไม้ปลูกป่า ซึ่งจะส่งผลให้ป่าต้องถูกเปลี่ยนจากไม้นานาชนิดธรรมชาติเชิงซ้อน มาเป็นการปลูกป่าเชิงเดี่ยว ป่าเชิงเดี่ยวสภาพรากทุกส่วนที่ปกคลุมดินอุ้มรับเก็บน้ำได้เปลี่ยนไปจึงส่งผลต่อดินที่จะเกิดสไลด์ และน้ำจะลากดินลงที่ต่ำได้”.พัทลุง เห็นชอบช่วยเหลือครัวเรือนประสบอุทกภัยกว่า 170,500 ครัวเรือน วงเงินกว่า 1,534 ล้านบาท คาดโอนเงินเยียวยา 9,000 บาทเข้าบัญชีประชาชนได้ภายในพรุ่งนี้

วันที่ 5 ธ.ค. 2568  ที่ จ.พัทลุง นายสุจินต์ วาจากิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ป.จ.) เพื่อพิจารณากลั่นกรองและรับรองข้อมูลความเสียหายด้านที่อยู่อาศัยจากสถานการณ์น้ำท่วม น้ำขัง น้ำหลาก และน้ำล้นตลิ่งในช่วงฤดูฝนปี 2568

จากการรวบรวมข้อมูลของคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ป.อ.) ทั้ง 11 อำเภอ พบว่ามีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 170,535 ครัวเรือน คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือรวม 1,534,815,000 บาท