ริมทะเลสาบสงขลา “ยังอ่วม” สำนักนายก ระดมพลช่วยถุงยังชีพ

ริมทะเลสาบสงขลา “ยังอ่วม” สำนักนายก  ระดมพลช่วยถุงยังชีพ





Image
ad1

ริมทะเลสาบสงขลา “ยังอ่วม” สำนักนายก  ระดมพลช่วยถุงยังชีพ สำนักงาน ร่มธรรม ขำนุรักษ์ เปิดศูนย์บรรเทาทุกข์ ชาวยชาวริมทะเล ที่ยังท่วมขังน้ำไม่ลด เพราะกระแสคลื่นทะเลหนุนแรง พร้อมเปิดโรงครัวทำอาหารกล่องบรรเทาทุกข์มหาวิปโยคน้ำท่วม “หาดใหญ่” บริจาคจากบริษัทเอกชนชลบุรี และ รมว.สำนักนายกรัฐมนตรี

นายประเสริฐ ดำสุด อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง (อบจ.) เปิดเผยว่า ได้เปิดศูนย์บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่สำนักงานนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 จังหวัดพัทลุง ในเขตเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง  เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง โดยได้รับถุงยังชีพจากนายนภินทร์ ศรีสรรพางศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 คันรถบรรทุก ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ฯลฯ และในส่วนนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังถูกน้ำท่วมขังสูงริมทะเลสาบสงขลา ฝั่ง จ.พัทลุง

และในขณะเดียวกันทาง บริษัท แหลมฉบังอิมแม็กซ์ จำกัด จ.ชลบุรี ได้เปิดโรงครัวทำข้าวกล่อง โดยระดมแม่บ้านจากเขตเทศบาลตำบลแม่ขรี ช่วยกันทำข้าวบรรจุถุงเพื่อง่ายต่อการแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยจำนวน 4 วัน ประมาณ 7,000 ถุง น้ำดื่มและเสื้อผ้า ซึ่งเฉพาะส่วนนี้  ได้นำไปแจกจ่ายกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมมหาวิปโยคหาดใหญ่ เนื่องจากหนักที่สุดและต้องช่วยเหลือเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง  รายงานว่าในขณะนี้พื้นที่ริมเทือกเขาบรรทัดเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าบริเวณ อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์  อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน อ.ศรีบรรพต อ.ป่าพะยอม ระดับน้ำเข้าสู่ปกติ แต่ในพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาบริเวณ อ.ควนขนุน อ.เมือง อ.เข้าชัยสน อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน ยังมีระดับน้ำที่สูงมากเพราะจากกระแสคลื่นลมในทะเลสาบสงขลา ยังพัดหนุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำลดลงเพียงน้อย

โดยเฉพาะในพื้นที่  ต.เกาะหมาก  ต.เกาะนางคำ  ที่เป็นพื้นที่เกาะนั้นระดับน้ำยังสูง  ถนนภายในหมู่บ้านยังถูกตัดขาด  ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรไปมา

ในส่วนของพื้นที่ อ.เมือง โดยเฉพาะชุมชนในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง ยังมีระดับน้ำท่วมสูงใน 5 ชุมชน เช่น ชุมชนบ้านท่าน้ำหัวนอน ชุมชนบ้านออก ชุมชมบ้านไร่  ชุมชนลำปำ  และชุมชนตลาดเก่าลำปำ

โดยเฉพาะชุมชนบ้านท่าน้ำหัวนอน ชุมชนบ้านออก  ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดชุมชลยลวิถี กระทรวงวัฒนธรรมได้คัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ของสุดยอดชุมชนต้นแบบ“เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ระดับประเทศประจำปี 2568  ระดับน้ำยังท่วมสูง ทำให้ชาวบ้านทั้ง 2 ชุมชนกว่า 400 ครัวเรือน ยังเดือดร้อนอย่างหนัก ทรัพย์สินได้รับความเสียหายหนัก เพราะขนย้ายไปไว้ในที่สูงไม่ทัน เพราะจากกระแสน้ำจากคลองลำปำไหลทะทักเข้ามาท่วมหมู่บ้านในชุมชนรวดเร็วมาก

ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า น้ำท่วมในชุมชนบำปำ เป็นน้ำท่วมครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 50 ปี ที่ไม่คาดคิดมาก่อนจนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทรัพย์สินโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า และของมีค่าได้รับคสามเสียหายหนัก

“ตนคาดว่าชาวบ้านจะต้องทนกับสภาพน้ำท่วมอยู่เช่นนี้ไม่น้อยกว่า 7 -10  วัน เพราะชุมชนตั้งอยู่ริมคลองลำปำ และริมทะเลสาบสงขลา ซึ่งยังมีลมและคลื่นในทะเลสาบพัดหนุนมาอย่างต่อเนื่อง”

ในขณะที่ชาวบ้านหมู่ 4  ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง กว่า 150  ครัวเรือน  ที่สะพานเหล็กข้ามคลองลำปำขาดก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกันเนื่องจากไม่สามารถออกมาสู่โลกภายนอกได้.

ส่วนสถานการณ์เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังน้ำท่วมพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ ได้เริ่มคลี่คลายลง บรรยากาศที่ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 พบว่าประชาชนผู้ประกอบการ ห้างร้าน คลินิก และโรงแรม ต่างทยอยออกมาทำความสะอาดครั้งใหญ่ล้างดินโคลน คราบน้ำ มากับน้ำท่วมหลังจากที่ประสบปัญหาขาดน้ำประปา มานานกว่าหนึ่งสัปดาห์

นส.ณัฐกานต์ จาราด เจ้าของร้านกาแฟ ตั้งอยู่ติดกับร้านหมี่ฮกเกี้ยน ได้สะท้อนปัญหาถึงการเข้าถึงสิทธิ์การเยียวยาจากภาครัฐ เนื่องจากร้านค้าของตนตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันกับร้านอื่น และต่างก็เป็นผู้เช่าที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมทั้งหมด
“ข้าวของในร้านเสียหายทั้งหมดเหมือนกันหมด แม้แต่น้ำที่บ้านก็ท่วมเสียหายทั้งหมดเหมือนกัน อยากถามรัฐบาลว่า ถ้าหนึ่งอาคารมีผู้เช่าด้วยกันถึง 2 ร้าน ต่างคนต่างเช่าและได้รับความเสียหายทั้งหมดแบบนี้ เราจะได้รับเงินเยียวยาทั้ง 2 ร้าน หรือจะได้แค่เพียงร้านเดียว เพราะเราก็เสียค่าเช่าและเสียหายเหมือนกัน”