เหยื่อแก๊งสแกมเมอร์แฉนาทีหนีตาย ถูกทหารเขมรบังคับให้ทำยอด 2 แสนต่อวัน

เหยื่อชาวไทยถูกหลอกไปทำงาน เล่านาทีหนีตาย ทหารกัมพูชาร่วมมือแก๊งสแกมเมอร์ บังคับทำงานให้ได้ยอด 2 แสนบาทต่อวัน

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พานางดวงใจ สำโรง อายุ 47 ปี แม่ของ ศิระมงคล กล้าหาญ หรือ นนท์ หรือ นายเสือ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยน้องหมิว น.ส.ศยามล จีนกิ้ม 26 ปี ภรรยาของนายเสือ ที่อุ้มลูกสาววัย 3 เดือน และนายธนัช วาลารัมย์ หรือ "เปา" อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าพบ กำลังสอบสวน บก.ปคม. เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับขบวนการหลอกคนไทยไปทำงาน ซึ่งพบว่ามีคนไทย คนจีน และคนกัมพูชา ร่วมขบวนการ ที่สำคัญมีทหารกัมพูชาเป็นคนมารับตัวไปส่งให้กับแก๊งสแกมเมอร์ด้วย

นางดวงใจ สำโรง อายุ 47 ปี แม่ของ ศิระมงคล กล้าหาญ หรือ นนท์ หรือ นายเสือ อายุ 24 ปี คนจากจังหวัดชลบุรี สะอื้นร่ำไห้ เล่าให้ฟังว่า ลูกชายบอกว่าจะไปฝึกงานเกี่ยวกับอาหารเสริมที่ต่างจังหวัด 7 วัน และจะได้ค่าจ้างด้วย แต่พอไปได้ 2 วัน เสือก็ส่งข้อความไปบอกเพื่อนที่จะตามไปฝึกงานด้วยกัน ว่า "อย่ามา ๆ ไม่ต้องมาแล้ว" หลังจากนั้นตนเองก็ติดต่อลูกชายไม่ได้อีกเลย จนช่วงเย็นวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เสือก็ส่งข้อความมาบอกว่าติดคุกอยู่ที่กัมพูชา ในคดีร่วมกันฆ่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ตึกที่เสือทำงานอยู่ โดยถูกจับพร้อมกับเพื่อนประมาณ 5 คน แต่เสือยืนยันว่าไม่ได้ฆ่า คนที่ฆ่าหนีไปแล้ว ส่วนเสือกับเพื่อนเพียงต่อสู้กับ รปภ. เพื่อจะหนีออกจากตึกเท่านั้น ซึ่งข่าวที่ทราบล่าสุดคือเสืออยู่ระหว่างขึ้นศาลที่กัมพูชา จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย

ดังนั้นจึงอยากให้ตำรวจ บก.ปคม. ช่วยประสานงานพา "เสือ" กลับมา เพราะลูกชายโดนหลอกไปทำงาน โดนคนไทยด้วยกันขายคนไทยด้วยกันเอง ตอนนี้คิดถึงลูกชายมาก ทุกวันนี้ไม่เป็นอันทำอะไร ติดต่อลูกชายไม่ได้เลย และยังมีคนไทยอีกหลายคนที่ถูกจับเหมือนกัน อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยพาทุกคนกลับมา

น้องหมิว น.ส.ศยามล จีนกิ้ม 26 ปี อุ้มลูกสาววัย 3 เดือน ที่เกิดกับนายเสือ มาร้องขอความช่วยเหลือด้วยความเป็นห่วงสามี ปกติอยู่ที่ชลบุรี เสือจะไปทำงานเสิร์ฟที่สถานบริการแห่งหนึ่ง เขาหายตัวไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย. โดยบอกเพียงว่าจะไปอบรม ตนคิดว่าเป็นงานที่ร้านสะดวกซื้อ เพราะเขาเคยไปทำอยู่พักหนึ่ง แต่กลับไม่ใช่ วันที่ 2 ธ.ค.เพื่อนเสือติดต่อมา บอกว่าเสือแจ้งเขาว่าให้อ่านข้อความอย่างเดียวไม่ต้องตอบ และห้ามเพื่อนอย่าตามไปทำงานด้วยมันอันตรายมาก

จนมาวันที่ 6 ธ.ค.เสือโทรทางแมสเซนเจอร์ มาบอกกับเพื่อนเขาว่าถูกจับดำเนินคดีอยู่ที่กัมพูชา เสือไม่อยากให้ตนเป็นห่วง จึงไม่โทรมาบอกโดยตรง ก่อนเพื่อนของเสือจะมาบอกตนกับแม่เสือจึงรู้ว่าเสือถูกดำเนินคดีข้าหาฆ่า รปภ.ตาย
ตนได้พยายามหาข้อมูลทุกช่องทาง ซึ่งปกติเสือจะเป็นคนติดโซเชียลมาก แต่กลับไม่พบมีความเคลื่อนไหวเลยตั้งแต่หายตัวไป จนตนไปเจอคลิปใน TikTok บัญชีBong Donal พบว่ามีคลิปขณะตำรวจกัมพูชาบุกเข้าไปจับกุมเสือ สามีของตนไป จึงพยายามสอบถามข้อมูล และมีการส่งภาพเสือที่ถูกชี้ตัวและทำประวัติมายืนยันว่าเสือถูกจับจริงๆ จนวันนี้ยังไม่รู้ว่าไปถึงคดีไปถึงไหน มีคนแนะนำให้ตนบินไปดูแลสามีที่โน้นจะดีที่สุด

ขณะที่ผู้เสียหายอีกคน คือนายเปา อายุ 38 ปี คนจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถูกหลอกผ่านเฟซบุ๊กจัดหางาน ไปทำงานอาหารเสริมกลุ่มเดียวกับ "เสือ" และหนีรอดกลับมาได้ เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกผู้ว่าจ้างบอกว่าเป็นงานเกี่ยวกับอาหารเสริม ไปทำงานที่กรุงเทพ แต่สุดท้ายกลับให้เดินทางไปอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยอ้างว่าจะมีทีมงานมารับไปอบรมที่จังหวัดจันทบุรี แต่ระหว่างทางกลับพาเลี้ยวเข้าป่าอ้อยย่านคลองน้ำใส
และถูกทหารกัมพูชา อาวุธปืนครบมือ เข้ามาล้อมจับกุมตนเองกับพวก โดยทหารกัมพูชาพาเดินข้ามคลองไปฝั่งกัมพูชา และส่งต่อให้นายทุนจีนและบอสคนไทย โดยตนเองถูกพาเข้าไปในตึกสแกมเมอร์แห่งหนึ่งและถูกจับแยกกับกลุ่มที่มาด้วยกัน ถูกยึดบัตรประชาชน และถูกบังคับให้บอกรหัสโทรศัพท์มือถือและรหัสบัญชีธนาคาร เพื่อเอาไปสแกนหน้า ทำบัญชีธนาคารที่ตนเองเปิดมาเพื่อใช้รับเงินเดือนและบัญชีธนาคารส่วนตัว รวม 5 บัญชี ไปทำเป็นบัญชีม้า

หลังจากนั้นกลุ่มสแกมเมอร์ก็บอกว่าจะพาตนเองกลับบ้าน แต่จริงๆ พาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธบอกว่าตนเองทำงานต่อ เดินทางกลับไม่ได้ อ้างว่าถูกขายมาแล้ว ต้องทำงานให้ได้วันละ 200,000 บาท ตนเองพยายามปฏิเสธแล้วแต่ก็ถูกข่มขู่ สุดท้ายจึงอาศัยจังหวะที่ทหารกัมพูชาเผลอ หนีออกจากโรงแรมพร้อมกับน้องอีกคน และวิ่งเข้าป่าเพื่อหลบซ่อนตัวเป็นเวลา 1 คืน ก่อนจะไปพบกับทหารพรานของไทยที่ลาดตระเวนอยู่บริเวณชายแดน จึงขอความช่วยเหลือให้พากลับมาและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมระยะทางที่หลบหนีมากว่า 8 กิโลเมตร

ทั้งนี้หลังจากถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง และได้รับการประกันตัวออกมา ตนเองก็ไปติดต่อธนาคาร เพื่อตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ถูกกลุ่มสแกมเมอร์เอาไปทำบัญชีม้า พบว่าถูกอายัดทั้งหมด เพราะมีผู้เสียหายแจ้งความไว้ 3 ท้องที่ ได้แก่ สภ.กระทุ่มแบน สภ.บ้านบึง และ สภ.ปากช่อง แต่ยังไม่มีการออกหมายจับ ซึ่งวันนี้ก็มีการนำรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการมาส่งมอบให้ตำรวจด้วย

