บุกรวบ "3 เขมร" กร่าง! ควงสปาร์ต้า ท้าคนไทย ก่อนโชว์ปาระเบิดกลางถนน

จากกรณีวัยรุ่นชาวกัมพูชา กว่า 10 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี แล้วไปรวมตัวกันที่บริเวณสามแยกโรงงานเหล็กซิงเคอร์หยวน ถนนเฉลิมลาภ ต.ตาสิทธ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ก่อนที่วัยรุ่นชาวกัมพูชา รายหนึ่งซึ่งสวมหมวกกันน็อคสีขาว โดยในถือมีดสปาร์ต้ามีความยาวกว่า 1 เมตร ได้ปาระเบิดปิงปองประดิษฐ์ลงพื้นถนนจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมตะโกนท้าทายให้คนไทยออกมาต่อสู้กัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลคนไทยที่เห็นคลิปเกิดความโกรธแค้น จึงเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นชาวกัมพูชา มาดำเนินคดีไปตามกฎหมาย พร้อมให้ผลักดันกลับประเทศต้นทางโดยเร็วที่สุด

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. (17 ธ.ค.68) มีรายงานว่า พ.ต.อ.วสุรัชย์ ชัยธีราพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี พร้อม นายพงษ์นที นายดอน ปลัดอำเภอหนองใหญ่ ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สภ.หนองใหญ่ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบบริเวณสามแยกโรงงานเหล็กซิงเคอร์หยวน ถนนเฉลิมลาภ ต.ตาสิทธ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มวัยรุ่นชาวกัมพูชา ปาระเบิดลงถนน

ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สามารถติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นชาวกัมพูชา ที่รวมตัวก่อเหตุ ได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายเคมมารา เมือท อายุ 20 ปีสัญชาติกัมพูชา, นายเมย เมย อายุ 21 ปี มือปลาระเบิดและถือมีดสปาร์ต้า และวัยรุ่นชาวกัมพูชา อีก 1 รายซึ่งเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอ ก่อนนำไปโพสต์ลงโซเชียล พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน 2 กษ 8790 ระยอง ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนคุมตัวชาวกัมพูชา ทั้ง 3 รายไปสอบปากคำที่ สภ.หนองใหญ่ โดยมี นางเกิด นวล อายุ 50 ปี แม่ของนายเมย เมย มือปาระเบิด เดินทางไปที่ สภ.หนองใหญ่ ด้วย

จากการสอบถาม นางเกิด แม่ของนายเมย เมย มือปาระเบิด ให้ข้อมูลว่า มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ 25 ปี โดยได้ทำงานเกี่ยวกับการผลิตอุปกรณ์โรงงานอยู่ใน อ.หนองใหญ่ โดยวันนี้ขณะที่ตนอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ที่บ้าน จู่ๆ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายบุกเข้ามาในบ้าน ก่อนคุมตัวลูกชายมาที่ สภ.หนองใหญ่ ตนจึงตามมาด้วย เพราะไม่รู้ว่าลูกชายไปก่อเหตุอะไร กระทั่งลูกสะใภ้นำคลิปมาให้ตนดู จึงรู้ว่าลูกชายพร้อมกลุ่มเพื่อนชาวกัมพูชาไปก่อเหตุปาระเบิด พร้อมท้าทายคนไทยให้ออกมาสู้กัน
ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจที่ลูกชายและกลุ่มเพื่อนไปก่อเหตุปาระเบิด และท้าทายคนไทย ทั้งๆ ที่ตนสอนลูกอยู่ตลอดเวลาว่าให้ขยันทำงาน อย่าไปทำเรื่องไม่ดี แต่ลูกชายกลับแอบหนีไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนในตอนกลางคืน สุดท้ายไปก่อเหตุปาระเบิดและท้าทายคนไทย ตนในฐานะแม่จึงอยากจะขอโทษคนคนไทยทุกคน ที่ลูกชายก่อเหตุปาระเบิดในขณะที่สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนยังเกิดขึ้อนอย่างต่อเนื่อง

มีรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.วสุรัชย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชลบุรี พร้อม พ.ต.อ.ราเมศ ชนะศุภกาญจน์ ผู้กำกับการ สภ.หนองใหญ่ ได้ทำการสอบสวนกลุ่มผู้ก่อเหตุชาวกัมพูชา อย่างเข้มข้น เพื่อเร่งขยายผลติดตามจับกุมวัยรุ่นกัมพูชา ที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีไปตามกฎหมายโดยเร่งด่วน ก่อนส่งตัวให้ ตม.ผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป

