สู้รบชายแดนยืดเยื้อ ชาวสวนโอดกรีดยางไม่ได้รายได้เป็นศูนย์-ไม่มีเงินใช้หนี้

สู้รบชายแดนยืดเยื้อ ชาวสวนโอดกรีดยางไม่ได้รายได้เป็นศูนย์-ไม่มีเงินใช้หนี้





Image
ad1

สถานการณ์สู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อทำให้ส่งผลกระทบกับประชาชนและเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดน ยังไม่สามารถกลับเข้าพื้นที่ไปใช้ชีวิตหรือประกอบอาชีพได้ตามปกติ เช่น เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด  ซึ่งยังเป็นพื้นที่สีแดงเสี่ยงอันตราย เพราะยังคงมีการยิงปะทะตามแนวชายแดน  และมีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ชุมชน และพื้นที่การเกษตรมากกว่า 30 ลูก และบางลูกยังไม่ทำงาน

ทางเจ้าหน้าที่จึงยังไม่อนุญาตให้เกษตรเข้าไปกรีดยาง บางคนที่กรีดไว้ก่อนเกิดการสู้รบก็ไม่สามารถเข้าไปเก็บผลผลิตได้ เพราะเกรงจะได้รับอันตราย สร้างเดือดร้อนให้กับเกษตรกรต้องขาดรายได้มานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว  จากปกติเกษตรกรจะมีรายได้จากการกรีดยางพาราขาย เฉลี่ยสัปดาห์ละ 5,000  - 10,000 บาท แต่หลังจากเกิดการสู้รบกันรายได้ก็เป็นศูนย์   แต่ยังต้องมีภาระค่าใช้จ่ายประจำวัน และภาระหนี้สิน ซึ่งยังไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปชำระ จึงอยากให้รัฐบาลและทหาร เร่งจัดการปัญหาชายแดนให้จบลงโดยเร็ว จะได้กลับไปใช้ชีวิตและทำมาหากินได้ตามปกติเพราะตอนนี้ชาวบ้านชายแดนเดือดร้อนมาก

ช่วงนี้ก็มีผู้นำชุมชนและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่หมุนเวียนเข้าไปตรวจตราดูแลสวนยางพาราเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีหรือคนร้าย ฉวยโอกาสเข้าไปขโมยเก็บยางที่เกษตรกรกรีดทิ้งไว้ในถ้วย ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรที่เดือดร้อนอยู่แล้ว

นายสง่า (สงวนนามสกุล) เกษตรกรชาวอำเภอบ้านกรวด บอกว่า ตั้งแต่เกิดการสู้รบก็ให้ลูกและภรรยา ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ส่วนตัวเองก็อยู่เฝ้าบ้านแต่ก็ไม่สามารถเข้าไปกรีดยางพาราซึ่งมีอยู่ 14 ไร่ได้เกือบจะ 2 สัปดาห์แล้ว ทำให้ขาดรายได้

จากช่วงปกติจะมีรายได้จากการกรีดยางพาราเฉลี่ยสัปดาห์ละ 7,000 - 8,000 บาท  แต่ตอนนี้รายได้เป็นศูนย์ ก็เดือดร้อนมากเพราะนอกจากจะขาดรายได้แล้ว ยังต้องมีภาระหนี้สินอีก ก็อยากให้รัฐบาลและทหารจัดการปัญหาพิพาทชายแดนให้จบโดยเร็วและเด็ดขาดไม่ให้กัมพูชามารุกรานไทยหรือเกิดการสู้รบกันอีก  ประชาชนจะได้ใช้ชีวิตเป็นปกติ

ทางด้านนายวิชิต (สงวนนามสกุล) กล่าวว่า ครอบครัวปลูกยางพารา 500 ต้น ปกติจะมีรายได้จากการกรีดยางพาราขายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3,000- 4,000 บาท แต่หลังเกิดการสู้รบก็ไม่สามารถเข้าไปกรีดยางได้เลยเพราะเป็นพื้นที่อันตรายที่ยังมีการสู้รบ ทำให้ขาดรายได้มากเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว ยอมรับว่าเดือดร้อนแต่หากการสู้รบครั้งนี้จะทำให้กัมพูชาไม่มารุกรานไทยหรือเกิดปัญหาพิพาทกันอีก ก็อยากให้ทหารจัดการให้จบไปเลยเพราะชาวบ้านชายแดนต้องอพยพเป็นครั้งที่สองแล้ว