ขุดประวัติ "กานต์ เวลไฟร์" นักธุรกิจสายปาร์ตี้วิญญาณโหด

กำลังกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่สังคมกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิดสำหรับเหตุการณ์สังหารโหดบนทางพิเศษศรีรัช เมื่อเช้ามืดวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ชนวนเหตุเริ่มต้นเพียงแค่การขับรถปาดหน้ากันบริเวณด่านเก็บเงินประชาชื่น ซึ่งในขณะนั้น นายอนุวัฒน์ ผู้เสียชีวิต กำลังขับรถกลับบ้านพร้อมแฟนสาว แต่กลับถูกรถโตโยต้า เวลไฟร์ ของ "นายสงกรานต์ พานภู่" หรือ "กานต์" ขับปาดหน้าจากซ้ายเพื่อแทรกเข้าช่องจ่ายเงินอย่างกะทันหัน แม้ฝ่ายผู้ตายจะยอมชะลอรถให้ไปก่อน

แต่คู่กรณีกลับไม่จบเพียงเท่านั้น โดยหลังผ่านด่านออกมาได้ไม่ไกล นายกานต์ได้ขับรถชะลอความเร็วในเลนขวาคล้ายดักรอ เมื่อนายอนุวัฒน์ขับมาเทียบข้างและลดกระจกลงเพื่อจะสอบถาม นายกานต์กลับใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ทันที 4 นัด กระสุนเจาะเข้าร่างนายอนุวัฒน์ 3 นัดจนเสียชีวิตคาที่ ทิ้งให้แฟนสาวต้องตัดสินใจเสี่ยงตายคว้าพวงมาลัยประคองรถเข้าข้างทางเพื่อเอาชีวิตรอด

จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่านายสงกรานต์ หรือฉายา "กานต์ สายตี้" วัย 37 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี มีโปรไฟล์เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ใช้ชีวิตอูฟู่ ชอบปาร์ตี้และดื่มสุราเป็นประจำ โดยเบื้องหลังทำธุรกิจปล่อยเงินกู้และรับจำนำของมีค่าทุกชนิดรวมถึงอาวุธปืน ซึ่งในคืนเกิดเหตุพยานยืนยันว่านายกานต์เพิ่งกลับจากดื่มสุราจนมีอาการมึนเมาจัดก่อนจะขับรถมาก่อเหตุอุกอาจ และเมื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่าเขามีหมายจับติดตัวของศาลจังหวัดชลบุรีในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่กลับยังลอยนวลและพกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลาจนมาก่อเหตุซ้ำอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

พฤติกรรมหลังก่อเหตุของนายกานต์สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพในการหลบหนี โดยเขาได้ขับรถไปเปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่ออำพรางความผิด ก่อนจะนำรถไปจอดทิ้งไว้ใกล้ร้านอาหารญี่ปุ่นและเรียกแท็กซี่หลบหนีออกจากพื้นที่ไป ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์คันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม แต่ตัวนายกานต์ยังคงไร้ร่องรอย

โดยสายสืบรายงานว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ต้องหารายนี้กำลังมุ่งหน้าหลบหนีออกนอกประเทศไปยังฝั่งประเทศลาวผ่านช่องทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่จึงประกาศเตือนประชาชนว่านายกานต์เป็นบุคคลอันตรายและมีอาวุธปืนติดตัว หากใครพบเห็นให้รีบแจ้งตำรวจทันทีและห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรงและพร้อมจะใช้ความรุนแรงได้ตลอดเวลา

