ทลายรัง "จีนเทา" กลางกรุง!หนีหมายแดง ซุกตัวเช่าบ้านหรูย่านวังทองหลาง

ตำรวจ 191 บุกทลายรัง "จีนเทา" กลางกรุง! รวบหนุ่มจีนหนีหมายแดง ซุกตัวเช่าบ้านหรูย่านวังทองหลาง เดือนละ 1.4 แสนบาท

เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 68 พล.ต.อ.สําราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจนครบาล พร้อมหมายค้น บุกเข้าตรวจสอบทาวน์โฮมหรู ย่านซอยสหการประมูล เขตวังทองหลาง เพื่อทลายรังกบดานของกลุ่ม "จีนเทา" และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญที่ทางการจีนต้องการตัวได้สำเร็จ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว โดยพบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคือ นายเหลียง ไอปิง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตาม หมายแดงของตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ในฐานะสมาชิกแก๊งฉ้อโกงข้ามชาติ มูลค่าความเสียหายที่ทางการจีนแจ้งมาสูงถึง 100 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 ล้านบาท

จากการตรวจค้นบ้านพักหรูหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบ อาวุธปืนหนึ่งกระบอก ซึ่งมีทะเบียนเป็นชื่อของคนไทย อยู่ระหว่างการขยายผล นอกจากนี้ยังพบ ธนบัตรทั้งเงินหยวนและเงินบาทจำนวนหนึ่ง และที่สำคัญคือการพบ กระเป๋าดิจิตอล (Digital Wallet) ที่เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นที่เก็บเงินดิจิทัลทั้งหมดที่ได้จากการฉ้อโกง รวมถึงเอกสารและหลักฐานอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

การจับกุมในครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากการระดมกวาดล้างอาวุธปืนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบความเชื่อมโยงว่า นายเหลียงมีการหลบหนีและพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้ประสานทางการไทยให้ช่วยตรวจสอบ จนนำมาสู่การตรวจค้นและจับกุมในที่สุด

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเหลียงได้เดินทางเข้าประเทศไทยโดยใช้ ช่องทางธรรมชาติในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม ปี 2567 โดยได้รับคำแนะนำจากกลุ่มแก๊งคนจีน และมีการว่าจ้างคนกลางซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติให้ติดต่อจ่ายค่าเช่าบ้านหรูหลังดังกล่าวให้กับเจ้าของบ้าน ในราคาสูงถึงเดือนละ 140,000 บาท ตลอดระยะเวลา 11 เดือนที่ผ่านมา

ทางการจีนได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายเหลียงในความผิดฐาน หลอกลวงและฉ้อโกงประชาชนชาวจีนกว่า 100 ราย โดยนายเหลียงเป็นหนึ่งในกลุ่มแก๊งที่จัดตั้งแพลตฟอร์มการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลปลอมที่ชื่อว่า “FINTOUC” บนอินเทอร์เน็ตและโฆษณาผ่านแอปพลิเคชันมือถือเพื่อหลอกลวงนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม นายเหลียงยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงดังกล่าว แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหา หลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดและเส้นทางการเงินดิจิทัลจะมีการขยายผลต่อไป

ด้านเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มคนร้ายได้มาติดต่อขอเช่าบ้านผ่านเอเจนซี่ โดยตนเองไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใครมาจากไหน ทราบเพียงว่า มาเช่าเพื่อพักอาศัยและจะจดทะเบียนบริษัทภายหลัง เริ่มเช่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ราคา 140,000 บาทต่อเดือน เดิมทีมีผู้อาศัยประมาณ 5-7 คน มีแม่บ้านดูแล และมีบุคคลหมุนเวียนเข้าออกอยู่ตลอด แต่ช่วงหลังเห็นเพียงผู้ต้องหา และแม่บ้านเท่านั้น

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งขยายผลว่ามีกลุ่มแก๊งฉ้อโกงของนายเหลียงใช้ประเทศไทยเป็นที่ซ่อนตัวเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รวมถึงขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือในการพาเข้าประเทศและเส้นทางการเงินดิจิทัลที่ตรวจพบ

