รัฐบาลขยายแผนลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงผสมชีวภาพไปถึงปี 2567

09 ก.ย. 2565  ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้ง ที่ 6/65 ผ่านสื่ออิเล็คทรอนิกส์ ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อติดตามสถานการณ์พลังงานและมาตรการรองรับผลกระทบประชาชน 

 ที่ประชุมร่วมพิจารณา และให้ความเห็นชอบ การขอขยายระยะเวลาการดำเนินงานของ แผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ออกไป 2 ปี จากเดิม ครบกำหนด 24 ก.ย.65 เป็น 24 ก.ย.67 และแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในช่วงปีงบประมาณ 66-67 โดยมีสรุปสาระสำคัญ คือ กำหนดมาตรการลดการจ่ายเงินชดเชย น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ กลุ่มน้ำมันเบนซิน โดยทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยแก่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 และ อี 85 จนไม่มีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน 2 ปี และลดการจ่ายเงินชดเชยให้แก่กลุ่มน้ำมันดีเซล โดยทยอยการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา 20 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 จนไม่มีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภายใน 2 ปี โดยมอบหมายให้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง นำเรื่อง เสนอ ครม. พิจารณาต่อไป  

     พล.อ.ประวิตร’ ย้ำร่วมตระหนักถึง สถานการณ์ราคาพลังงานโลกปัจจุบัน มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าและความเดือดร้อนของประชาชน  พร้อมสั่งการให้ กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งกำหนดและออกมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนหลังคา ( Solar Rooftop ) ให้เร็วขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนของประชาชน  รวมทั้งขอให้หน่วยงานรัฐ ต้องประหยัดพลังงานและร่วมกันณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วน ช่วยกันประหยัดและใช้พลังงานอย่างมีคุณค่าและมีประสิทธิภาพ