เลขาฯศอ.บต.ถกเตรียมพร้อมผู้แสวงบุญชายแดนใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ที่ซาอุฯ

เลขาฯศอ.บต.ถกเตรียมพร้อมผู้แสวงบุญชายแดนใต้ไปประกอบพิธีอุมเราะห์ที่ซาอุฯ





ad1

ปัตตานี -เลขาธิการ ศอ.บต. พบปะผู้แสวงบุญที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ ด้านแพทย์ระบุ ผู้แสวงบุญต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ทางการซาอุ กำหนด อย่างเคร่งครัด ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการการเปิดประชุมเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์  ที่ห้องประชุมน้อมเกล้า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมมอบกระเป๋าเดินทาง ภายใต้กิจกรรมสนับสนุนการประกอบพิธี อุมเราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2564 ฮิจเราะห์ 1443  โดยมี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้อำนวยการสำนัก/กอง หัวหน้าส่วนราชการ วิทยากร เข้าร่วม โดยก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ทุกคนได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยเครื่อง ATK เพื่อความปลอดภัยด้วย

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้มีผู้ผ่านการคัดเลือกไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ประจำปี ฮ.ศ. 1443  จำนวน 112 คน แบ่งเป็น จังหวัดปัตตานี จำนวน 29 คน จังหวัดยะลา จำนวน 43 คน จังหวัดนราธิวาส   จำนวน 45 คน จังหวัดสงขลา จำนวน 4 คน และจังหวัดสตูล จำนวน 1 คน  ซึ่งจะเดินทาง เดินทางระหว่างวันที่ 28 – 29 พฤศจิกายน 2564 นี้ โดยจัดการประชุมแยกเป็นจังหวัดเพื่อจำกัดจำนวนคนตามมาตรการของ ศบค.  ทั้งนี้  ได้มีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ Zoom ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่  จ.ปัตตานี และนราธิวาส ได้รับชม รับฟังไปพร้อมๆกัน

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ที่ได้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่สำคัญของพี่น้องมุสลิม เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตของมุสลิมทุกคน รัฐบาลและ ศอ.บต. พร้อมทำหน้าที่ในการสร้างโอกาสให้ได้เดินทางไปในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ได้เดินทางไปในครั้งนี้ถือเป็นทูตของประเทศไทยในการไปทำหน้าที่ในฐานะคนไทย ขอให้การเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ประสบความสำเร็จเมื่อกลับมาแล้วขอให้กลับมาทำประโยชน์ให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นคนดีของครอบครัว เป็นคนดีของสังคม และช่วยกันสร้างสรรค์ความสุข ความเจริญให้กับประเทศชาติต่อไป

ด้าน นายแพทย์ซุลกิฟลี ยูโซะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นแพทย์ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ในครั้งนี้ด้วยและจะทำหน้าที่ดูแลด้านสุขภาพของผู้แสวงบุญ ได้เผยถึงมาตรการความปลอดภัยในช่วงประกอบพิธีอุมเราะห์ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ว่า ทางการซาอุดิอาระเบียได้มีมาตรการให้ผู้จะเดินทางไปแสวงบุญต้องฉึดวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งต้องมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR เป็นลบ ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เมื่อเดินทางไปถึงต้องลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่นของทางซาอุดิอาระเบียที่แสดงถึงการได้รับวัคซีนแล้ว โดยทุกกิจกรรมที่ทำจะใช้มือถือในการสแกนว่ามีคุณสมบัติที่จะเข้าสถานที่ต่างๆได้หรือไม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีความเข้มงวดมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามการไปประกอบพิธีอุมเราะห์ถือเป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญของพี่น้องชาวมุสลิมทั่วโลก    สามารถกระทำได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละเดือนจะมีชาวมุสลิมหลายหมื่นคนจากทั่วโลกเดินทางไปอุมเราะห์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบียและในปีนี้ทางการของซาอุดีอาระเบีย ได้ประกาศให้ผู้แสวงบุญชาวมุสลิมทั่วโลกสามารถเข้าร่วมพิธีอุมเราะห์