‘สันธนะ’ หอบหลักฐาน บุก สตช. อ้างนำข้อมูลกลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อม นำพาสปอร์ต ยื่นถึง ผบ.ตร. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ  

‘สันธนะ’ หอบหลักฐานบุก สตช.อ้างนำข้อมูลจีนเทายื่นผบ.ตร.

‘สันธนะ’ หอบหลักฐาน บุก สตช. อ้างนำข้อมูลกลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อม นำพาสปอร์ต ยื่นถึง ผบ.ตร. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ  





ad1

‘สันธนะ’ หอบหลักฐาน บุก สตช. อ้างนำข้อมูลกลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อม นำพาสปอร์ต ยื่นถึง ผบ.ตร. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันไม่หนีหากถูกออกหมายจับ 

วันนี้ (14 พ.ย. 65) นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางขอเข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมนำหนังสือเดินทางพาสปอร์ตมามอบให้ตำรวจ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันจะไม่หลบหนี หากถูกออกหมายจับ ในส่วนคดีของกลุ่มทุนจีนสีเทา 

นอกจากนั้นยังได้นำเอกสารหลักฐานจำนวน 3 กระเป๋า อ้างว่าเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทามามอบให้กับตำรวจโดยยื่นความจำนงหากเป็นไปได้อยากขอมีส่วนร่วมช่วยเรื่องสำนวนคดี

นายสันธนะ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองเคยถูกพาดพิงเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา จะมีการออกหมายจับครั้งใหญ่ ซึ่งมีข่าวมาอย่างต่อเนื่องและพาดพิงชื่อของตนอย่างชัดเจน จนกระทั่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ภายหลังกลับระบุว่า ตนเองเป็นเพียงตัวเล็กไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง วันนี้จึงนำหนังสือเดินทางมามอบให้กับ ผบ.ตร.ไว้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหาก ผบ.ตร.ไม่รับไว้ตนเองก็จะนำไปยื่นให้กับ ผกก.สน.ปทุมวันต่อ 

จากนั้น นายสันธนะ ได้โชว์หนังสือเดินทางของตนเอง ในระหว่างวันที่ 8-10 ก.ค. พบว่ามีการเดินทางไปประเทศลาวโดยบอกว่าไป คุยธุรกิจ เมื่อสอบถามว่าเกี่ยวข้องกับนายทุนจีน 5 คนที่ทางประเทศไทยตามตัวอยู่หรือไม่ นายสันธนะ กล่าวว่ามีทั้งนักลงทุนคนจีน และคนลาว ซึ่งตัวเองก็จะเอาข้อมูลที่ได้พูดคุยกับนักธุรกิจกลุ่มนี้ให้ข้อมูลกับตำรวจด้วย

ส่วนเรื่องเอกสารหลักฐานที่จะนำมายื่นให้ผบ.ตร. นายสันธนะ เปิดเผยว่าเป็นหลักฐานที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะขอมายื่นให้ในฐานะพยาน เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือไม่ใช่เพียงคำพูดปากเปล่าโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งมองว่าหากตัวเองได้เข้ามามีส่วนกับคดีจะทำให้การดำเนินคดีไม่สามารถมีการวิ่งเต้นคดีกันได้ ยกตัวอย่างเรื่องของเสี่ยเอี่ยว เจ้าของคลับวันพัทยา ที่เคยถูกดำเนินคดียาเสพติดและฟอกเงินแต่กลับมาเปิดผับไปอีก ซึ่งต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังและการช่วยคดีจึงมองว่าหากตัวเองมีส่วนมาช่วยจะไม่เกิดเหตุแบบนี้

ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่าง นายสันธนะและ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ จนถึงขั้นท้าชกต่อยกันในโซเชียล นายสันธนะ บอกว่ามันเป็นเรื่องดราม่าเกินไปไม่เกิดประโยชน์

หลังจากเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์สื่อ นายสันธนะบอกว่า จะรอพบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่วันนี้เดินทางมาเป็นประธานการประชุมมาตรการรักษาความปลอดภัยเอเปค โดยมีตำรวจสันติบาลพยายามเข้ามาเจรจา และขอความร่วมมือให้อยู่บริเวณพื้นที่ที่จำกัดเนื่องจากคำนึงถึงความสงบเรียบร้อย ก่อนที่ พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และพล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกตร. จะเข้ามาเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจอีกครั้ง ซึ่งนายสันธนะ จึงขอเข้าไปสักการะอนุสาวรีย์รัชกาลที่4 ก่อนจะนัดหมายเข้ามาให้ข้อมูลใหม่อีกครั้งภายหลัง