‘มาดามเดียร์’ ย้ายซบประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นอิสระ-ไม่ถูกครอบงำ ‘จุรินทร์’ ปลื้มได้คนรุ่นใหม่ วางตัวเสริมทัพทีมกทม. เชื่อได้ ส.ส.เพิ่ม

‘วันนี้ (22 ก.ย. 65) พรรคประชาธิปัตย์เปิดตัว ‘วทันยา บุนนาค’ หรือ มาดามเดียร์ หลังเจ้าตัวลาออกจาก ส.ส. และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าพรรคเล่นเกมการเมืองกันมากเกินไปจากกรณีการโหวตสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อ 100 และ 500 ซึ่งตนได้โพสต์เฟซบุ๊กทิ้งท้ายไว้ว่าได้กราบลาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้วเรียบร้อยก่อนจะมาเปิดใจต่อสื่อมวลชน ซึ่งเดิมมาดามเดียร์เคยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 19 ของพรรคพลังประชารัฐเมื่อครั้งเลือกตั้งทั่วไป ปี 2562 ทั้งนี้มีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่องว่าจะมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้

โดยนายจุรินทร์ และ น.ส.วทันยา เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรคประชาธิปัตย์ และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถือเป็นเกียรติของพรรคที่ได้ต้อนรับ วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ วันนี้ถือว่าเป็นวาระพิเศษอีกครั้งหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือเป็นเกียรติและเป็นโอกาสสำคัญที่ พรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสต้อนรับนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ที่ชื่อว่า วทันยา บุญนาค ซึ่งมาดามเดียร์ เป็นนักการเมืองหญิงที่มีศักยภาพคนหนึ่งของประเทศ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นรุ่นน้องตนเอง เป็นอดีตผู้นำเชียรกีฬาธรรมศาสตร์-จุฬา ครั้งที่ 61 เป็นอดีตผู้บริหารสื่อ เป็นอดีตผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทยที่สามารถนำเหรียญทองมาสู่ประเทศไทยในกีฬาซีเกมส์ ปี 2017

นายจุรินทร์ ยังกล่าวว่า เมื่อ น.ส.วทันยา เข้าสู่เส้นทางการเมืองก็ถือเป็นดาวเด่นในสภา ทำหน้าที่ในสภาได้เป็นอย่างดี เป็นที่ยอมรับของสภา และคนไทยทั้งประเทศ วันนี้จึงถือว่าเป็นเกียรติกับพรรค ที่ได้ต้อนรับนักการเมืองที่มีศักยภาพ มาร่วมอุดมการณ์กับพรรค และมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมกทม.โดยเฉพาะ ซึ่งจะมาช่วยเดินหน้าในการขับเคลื่อน ทีมกทม. ที่มี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าทีมการศึกษาทันสมัย ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยจะมีวทันยาที่จะช่วยกันขับเคลื่อนและทำให้พรรคเดินหน้าไปสู่เสียงสนับสนุนของคน กทม. ที่มากขึ้นเป็นลำดับ
   
ซึ่ง น.ส.วทันยา ได้แจ้งความจำนงค์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และวทันยาจะเป็นสมาชิกพรรคในการขับเคลื่อนและเป็นกำลังสำคัญในการนำความสำเร็จมาสู่พรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวขอบคุณหัวหน้าพรรค ผู้บริหาร พรรคที่ต้อนรับเป็นอย่างดี ขอบคุณสื่อที่สนใจการเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคในครั้งนี้ เหตุผลที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์เพราะศรัทธาในความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่สมาชิกทุกคนมีอิสระทางความคิด ที่สำคัญคือไม่มีบุคคลใดเป็นเจ้าของ ไม่มีอำนาจใดที่มาผูกขาดครอบงำในความเป็นพรรค ในท่าทีมติใดๆของพรรคที่ออกมา ล้วนต้องผ่านการทบทวนและการโหวตโดยเสียงส่วนใหญ่ของพรรค ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เห็นว่า หากต้องการทำงานการเมืองที่ขับเคลื่อนระบบประชาธิปไตยต่อไป พรรคการเมืองที่เข้มแข็งที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตย ตัวตนของพรรคการเมืองควรจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสะท้อนประชาธิปไตยออกไป 

วทันยา ยังบอกว่า ตนติดตามการทำงานที่ผ่านมาของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคก็ชื่นชมในการทำงานของทีมหัวหน้าพรรคและคณะผู้บริหารทุกท่าน ที่มีความตั้งใจในการทำงาน ในความขยัน และที่สำคัญคือมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ จึงจะให้สัญญาว่าตนตั้งใจที่จะทำงานการเมืองโดยตั้งอยู่บนความสุจริตและจะยึดมั่นในความถูกต้องต่อไป

ส่วนการวางเงื่อนไขเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ นั้น น.ส.วทันยา ระบุว่า ขึ้นอยู่กับผู้บริหารของพรรค ซึ่งตนได้แสดงเจตจำนงค์ ในการลงส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประชาชน ขับเคลื่อนนโยบาย โดยได้ใช้เวลาตัดสินใจพอสมควร หลังลาออกจากพรรคพลังประชารัฐกระทันหัน ตนก็ได้พูดคุยกับผู้บริหารหลายพรรค แต่การตัดสินใจ ต้องเริ่มจากสัญลักษ์ของพรรคที่เป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหวังว่าในฐานะคนรุ่นใหม่จะเข้ามาต่อเติมการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ได้ 

ส่วน ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มดาวฤกษ์คนอื่นจะเข้าร่วมหรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของแต่ละบุคคล ตนยังไม่ได้มีการพูดคุย  ทั้งนี้ การทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์แตกต่างกัน เพราะพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่เพิ่งเกิดใหม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ที่เติบโตมาพร้อมกับคนทุกยุคทุกสมัย 

น.ส.วทันยา ระบุว่า สำหรับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั้น ยังคงเคารพท่านเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนบริบทในการทำงานทางการเมือง แต่เรื่องมิตรภาพระหว่างกัน เป็นคนละเรื่อง ส่วนประเด็นที่ถูกจับตา กรณีครอบครัวเป็นเจ้าของสื่อ และถือหุ้นสื่อนั้น ตนไม่มีความกังวลใดๆ เพราะ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการตั้งแต่ก่อนจะเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว 

สำหรับ น.ส.วทันยา หรือ มาดามเดียร์ ปัจจุบันอายุ 37 ปี ก้าวเข้าสู่วงการการเมืองด้วยการเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นอดีตแกนนำพรรคพลังประชารัฐ อดีตกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาได้ร่วมกับกับ ส.ส.หญิงในพรรคตั้ง “กลุ่มดาวฤกษ์” ซึ่งได้ทำงานทั้งในสภาฯ และลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน เขต กทม. 

โดยหลังจากจบการแถลงข่าว นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค ได้การมอบบัตรประจำตัวสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ให้กับ น.ส.วทันยา ถือเป็นการต้อนรับเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการ