ตำรวจขอหมายจับมือปืนยิงเสี่ยร้านมือถือ ด้าน"พล.ต.ต.นพเก้า"เผยขัดแย้งธุรกิจซื้อขายรถยนต์

ตำรวจขอหมายจับมือปืนยิงเสี่ยร้านมือถือ ด้าน"พล.ต.ต.นพเก้า"เผยขัดแย้งธุรกิจซื้อขายรถยนต์





ad1

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 ต.ค.2565 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้การติดตามสืบสวน จับกุม กลุ่มมือปืนที่ยิงนายพนม หรืออาร์ต ทิพย์รัตนมงคล อายุ40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/501  ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น นักธุรกิจร้านโทรศัพท์มือถือภายในตลาดค้าส่งประตูน้ำจนเสียชีวิตบนถนน ทางเข้าสนามบินขอนแก่น ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด ได้รวบรวม พยาน หลักฐานขอศาลออกหมายจับ นายโก้ และนายเบนซ์( ตำรวจขอไม่เปิดเผยชื่อที่อยู่จริงของผู้ต้องหา) ซึ่งมีพยาน หลักฐานที่ชัดเจนว่า เป็นคนลงมือยิงนายพนม จึงขอหมายจับ จับผู้ต้องหาทั้งสองคนในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ ใช้ปีนยิงเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร ร่วมกันมี ใช้ อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต

"ฝ่ายคนตายกับฝ่ายมือปืน รู้จักกัน  ในส่วนของฝ่ายมือปืนนั้น มีประวัติพัวพันกับยาเสพติด หลบหนีข้ามไปอยู่ที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน  ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งจังหวัดอีสานใต้ จะกลับมายังประเทศไทย หรือบ้านพักในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด เป็นบางครั้ง ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ฝ่ายคนตายและฝ่ายมือปืน มีนัดคุยธุรกิจซื้อขายรถยนต์กัน โดยฝ่ายมือปืนข้ามฝั่งมาที่จังหวัดอุบลราชธานี แล้วนั่งรถโดยสารมาหาเพื่อนชื่อเบนซ์ที่จังหวัดยโสธร แล้วใช้รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็กซ์แม๊ก สีดำคาดสีน้ำเงินแดงขาว ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน  ซึ่งเป็นของนายเบนซ์ ขับขี่มาหาฝ่ายผู้ตายในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด  ส่วนฝ่ายผู้ตายขับขี่รถยนต์ส่วนตัวไปรับฝ่ายมือปืน โดยยกรถจักรยานยนต์ ใส่ท้ายรถขับกลับมายังขอนแก่น ในคืนวันที่ 8 ต.ค. แล้วทั้งหมดแวะจอดพักรถที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ด จนกระทั่งนายโก้กับนายเบนซ์ก่อเหตุยิงนายพนมจนเสียชีวิต"

พล.ต.ต.นพเก้า กล่าวต่ออีกว่ามูลเหตุของการฆ่านายพนมนั้นในเบื้องต้นเกิดความขัดแย้งกันในเรื่องซื้อรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุสีขาว ไม่ทราบทะเบียน ซึ่งเชื่อว่า 2 ฝ่ายน่าจะกำความลับของกันและกันไว้ แต่เจรจาตกลงกันไม่ได้ นายพนมตัดสินใจหนีลงจากรถ ฝ่ายมือปืนจึงยิงทิ้งแล้วขับรถยนต์คันที่ต้องการซื้อขายกันหนีไปด้วย ส่วนรถยนต์ของผู้ตาย ขณะนี้ก็ยังหาไม่พบ  แต่เชื่อว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาน่า จะขับรถยนต์คันที่จะซื้อ และคันของผู้ตาย หลบหนีออกจากขอนแก่น ไปข้ามแม่น้ำโขงที่ จ.อุบลราชธานีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว  ส่วนรถยนต์อาจจะจอดทิ้ง หรือมีพรรคพวกลำเลียงข้ามโขงไปแล้วก็เป็นได้  แต่ในคดียิงนายพนมนั้น ตำรวจมีพยาน หลักฐานชัดเจน ว่านายโก้กับนายเบนซ์คือมือปืน ที่ยิงนายพนมจนเสียชีวิตแล้วหนีไป โดยมีเพื่อนอีกคนทำหน้าที่ขับรถพาหลบหนี  ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานขอหมายจับ คนที่ทำหน้าที่ขับรถพามือปืนหนีในข้อหาเดียวกัน