DSIผนึกปศุสัตว์บุกค้นโกดังใจกลางเมืองปัตตานีลักลอบนำเข้าเนื้อวัวเถื่อนเกือบ 10 ตัน

DSIผนึกปศุสัตว์บุกค้นโกดังใจกลางเมืองปัตตานีลักลอบนำเข้าเนื้อวัวเถื่อนเกือบ 10 ตัน





ad1

DSI ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดปัตตานีบุกค้นโกดังใจเมืองปัตตานีลักลอบนำเข้าเนื้อวัวเถื่อนเกือบ10 ตัน มูลค่าหลายล้านบาท หวั่นโรควัวบ้า หากกินเข้าไป

วันนี้(17พค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา นายสันยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับด่านศุลกากรปัตตานี ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี เข้าบุกตรวจค้นโกดังอห่งหนึ่งใจกลางเมืองปัตตานี หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำเนื้อวัวต่างประเทศเข้ามาขายในพื้นที่ปัตตานีอย่างผิดกฏหมาย

จึงนำกำลัง พร้อมแสดงตัวกับเจ้าของทำการตรวจค้นโกดังอิ​ เลขที่ 114 ถนนฤาดี ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นช่วงที่คนงานกำลังลำเลียงเนื้อวัวเข้าไปเก็บในโกดัง และพบกับนายสุกรี ทำหน้าที่ขับรถกระบะบรรทุกยี่ห้อโตโยต้า รีโว่  พร้อมนายอิบรอฮิม นั่งข้างคนขับ และนายอับดุลบาศิต ผู้ครอบครองสถานที่ พร้อมของกลางเนื้อวัว เนื้อควาย ตับซึ่งมีต้นทางจากประเทศอินเดีย และเนื้อวัวมีต้นทางจากประเทศบราซิล โดยบรรทุกอยู่หลังรถกระบะจำนวน 3.7 ตัน 150 กล่อง ผ่านทางชายแดนประเทศมาเลเซีย และที่เก็บอยู่ในบริเวณโกดังจำนวนประมาณอีก 4 ตัน มูลค่าความเสียหายวันละกว่าหนึ่งล้านบาท

จากให้การของผู้ต้องหา ทราบว่า ได้ลักลอบค้ามานานกว่าสองปี​ โดยเป็นเนื้อวัว เนื้อควาย นำเข้ามาจากต่างประเทศ และไม่มีใบอนุญาตตามกฎหมาย  ลักษณะภายนอกเหมือนเนื้อเกรดพรีเมี่ยมบรรจุกล่องอย่างดี กล่องละ 20 กิโลกรัม ซึ่งเนื้อวัวดังกล่าวเป็นเนื้อที่ไม่ได้รับรองมาตราฐาน และยังไม่ผ่านการตรวจโรค หากประชาชนบริโภคเข้าไป อาจส่งผลเสียหายต่อสุขภาพอนามัย  ซ้ำร้ายอาจมีการปนเปื้อนของโรคติดต่อทางวัว เช่น โรควัวบ้า เป็นต้น

พร้อมทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตามตลาดสดต่างๆมีการขายเนื้อวัวลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก และยังพบว่ามีประชาชนเป็นจำนวนมากที่นิยมซื้อมาประกอบอาหารกิน โดยเฉพาะร้านอาหารต่างๆ ร้านบุปเฟห์ตา่างๆ พบว่านิยมซื้อมาประกอบอาหารขาย เนื่องจากเนื้อวัวดังกล่าวมาราคาที่ถูกกว่าเนื้อวัวไทย​ที่วางแผงเขียงจำหน่ายตามตลาดสด ซึ่งชาวบ้านบางรายอาจจะยังไม่ทราบว่า เนื้อที่ลักลอบเข้ามาขายนั้นไม่ได้ผ่านการตรวจ สอบตามกระบวนการทางสาธารณสุขว่าปลอดโรครือไม่อย่างไร 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะขยายผลและตามจับกุมกับเจ้าของโกดังที่พักเนื้อดังกล่าว ในข้อหาประกอบความผิดฐานนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมไปถึงความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ส่วนเนื้อที่สามารถจับกุมได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะนำจำนวนทั้งหมดและยึดไว้เป็นหลักฐาน จะนำไปทำลายต่อไป