เทียบเชิญ "สี จิ้นผิง" มาเยือนไทย “เศรษฐา”ปลื้มรัฐบาลจีนสนใจ “แลนด์บริดจ์”

เทียบเชิญ "สี จิ้นผิง" มาเยือนไทย “เศรษฐา”ปลื้มรัฐบาลจีนสนใจ “แลนด์บริดจ์”





ad1

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2567  นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีนและ รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยนายกฯฝากความระลึกถึงและปรารถนาดีไปยังนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนและนายหลี่ เฉียง นายกฯจีน และยินดีสำหรับการลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน เชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันเรื่องการค้าขายและความสัมพันธ์ในระดับประชาชนร่วมกัน ปี 68 ไทยและจีนจะครบรอบการฉลอง 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ขณะที่นายหวัง อี้ ชื่นชมนายกฯที่ได้เลือกเยือนจีนเป็นประเทศแรกในเอเชีย แสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญกับจีน ที่ผูกพันธ์ฉันมิตรอย่างใกล้ชิด ดังเช่นที่กล่าวว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” สอดคล้องกับที่นายกฯหารือกับนายสี จิ้นผิง ต่างเห็นพ้องจะสร้างประชาคมสำหรับประชาชนร่วมกันในอนาคต เชื่อมั่นไทยจะเป็นกำลังสำคัญส่งเสริมเสถียรภาพและสันติภาพทั่วโลก

ด้านการค้าและการลงทุน ไทยยินดีที่วิสาหกิจและภาคเอกชนจีนมาลงทุนในไทยเป็นอันดับต้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ไทยพร้อมส่งเสริมการเติบโตของบริษัทจีนเพื่อส่งออกสินค้าไปยังตลาดทั่วโลก นายหวัง อี้ เห็นพ้อง ด้านความสัมพันธ์ระดับประชาชนและการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน พร้อมเน้นย้ำได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน จีนเห็นถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของโครงการแลนด์บริดจ์ นายกฯยินดีจะจัดโรดโชว์

ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน นายกฯยืนยันความตั้งใจฝ่ายไทยในการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางไทย-ลาว-จีน ด้านการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เห็นพ้องหาแนวทางรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่อย่างครอบคลุม ทั้งขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์ การพนัน ออนไลน์ การค้ามนุษย์ และยาเสพติด นายหวัง อี้ ยืนยันจีนพร้อมร่วมมือ ส่วนด้านความร่วมมือระดับภูมิภาค ไทยเชื่อมั่นจะเป็นตัวแทนรักษาเสถียรภาพ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับภูมิภาคนี้ได้ นายหวัง อี้ ยืนยันว่าจีนพร้อมสนับสนุนไทยในการเป็นประธานกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ในปี 67 เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับประชาชาชนในภูมิภาค

หลังเสร็จสิ้นการหารือทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือ 2 ฉบับของกระทรวงเกษตรฯและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ 1.พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืช สำหรับการส่งออกต้นสนใบพาย จากประเทศไทยไปประเทศจีน และ 2.ความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกไทยไปจีน โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนามฝ่ายจีน โดยมีนายกฯเป็นประธานสักขีพยาน พร้อมนายหวัง อี้ และนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศเข้าร่วมด้วย

จากนั้นนายเศรษฐา แถลงว่า ได้พูดคุยกันหลายมิติเรื่องวีซ่าฟรีไทย-วีซ่า เริ่มวันที่ 1 มี.ค.ถือเป็นมิติที่ดี จำนวนเที่ยวบินที่ยังไม่กลับเข้ามาสู่จำนวนปกติ ก่อนโควิด-19 ไม่แน่ใจอาจประมาณ 2,000 ไฟลท์ ปัจจุบันเหลือแค่ 1,200 ไฟลท์ จะมีการยกระดับการเดินทาง 2 ประเทศเพื่อไปมาหาสู่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และเริ่มมั่นใจว่าอนาคตอันใกล้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสูงขึ้น ขณะที่คนไทยจะเที่ยวประเทศจีนที่มีวัฒนธรรมอันดีงามด้วย และไทยยืนยันเจตนารมณ์สนับสนุนการเป็นประเทศกลาง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนได้พูดคุยกันในหลายมิติเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องที่คุยกันหลายมิติ ทั้งการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆไม่ใช่แค่รถอีวีอย่างเดียว การไปมา หาสู่รถไฟความเร็วสูง ที่จะมีขึ้นจากประเทศไทยผ่าน หนองคาย ผ่าน สปป.ลาว และเข้าจีน ด้านการเกษตรกรรม ทั้งการค้าโค ซึ่งจีนต้องการอย่างมาก แต่ด่านกักกันตรวจเชื้อโรคอยู่ที่ สปป.ลาว ทำให้การค้าระหว่าง 2 ประเทศไม่สะดวก จึงได้ขอร้องอย่าให้มีด่านกักกัน และตรวจโรคนี้เกิดขึ้นในไทย ประเทศจีนรับปากและได้เรียนเชิญนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มาเยือนประเทศไทยด้วย ส่วนความคืบหน้ารถไฟไทย-จีน มีแผนงานอยู่แล้ว ขอให้แผนงานทั้งหมดออกมาเป็นรายละเอียดแล้วจะแถลงให้ทราบอีกที

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า โครงการแลนด์บริดจ์ นายหวัง อี้ ได้พูดขึ้นมาเองว่าทางการจีนสนใจแลนด์ บริดจ์และต้องการข้อมูลเพิ่ม และไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาลจีนเพียงอย่างเดียว แต่เอกชนจีนก็สนใจที่จะมี ส่วนร่วม เพราะเขาทราบดีว่าหนึ่งในเหตุผลหลักที่เราดำริขึ้นมาว่าควรจะมีแลนด์บริดจ์ เพราะการลงทุนที่จะข้ามมาจากประเทศจีนช่วงหลายปีหลังบริษัทใหญ่ๆในประเทศจีนมาลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในเมืองไทย และไม่ใช่แค่มาสนองตอบแค่ความต้องการของคนในประเทศไทยอย่างเดียว แต่จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกด้วย แน่นอนว่าเราต้องมีท่าเรือน้ำลึก มีโครงการเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ อย่างแลนด์บริดจ์ ที่จะมาซัพพอร์ตตรงนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จะเดินทางไปประเทศจีนเร็วๆนี้ เพื่อจัดทำโรดโชว์