“เศรษฐา”ดันขนมเบื้องญวนต่อยอดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ปัตตานี

“เศรษฐา”ดันขนมเบื้องญวนต่อยอดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ปัตตานี





ad1

นายกฯ ชมที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี สักการะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ควงตะหลิวทำขนมเบื้องญวน ย้ำให้ต่อยอดสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ก่อนเยี่ยมชมมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี พบปะผู้นำศาสนา ยืนยัน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และคณะ เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ได้แก่ บ้านขุนพิทักษ์รายา บ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ทั้งนี้ ระหว่างเดินเยี่ยมชม นายกฯ รับฟังบรรยายสรุปประวัติของบ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ โดยนายกฯ ได้สอบถามด้วยความสนใจในเรื่องการท่องเที่ยวที่สำคัญด้านประวัติศาสตร์ ว่า ได้มีการส่งเสริมสนับสนุนให้จัดทำสารคดีทางประวัติศาสตร์หรือไม่ รวมถึงสายการบินได้สนับสนุนให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรมาเยี่ยมชมเมื่อมาจ.ปัตตานี เพราะดูจากลักษณะความพร้อมที่ได้มีการดำเนินการปรับปรุงมาแล้วถึง 2 ปี ควรมีการสนับสนุนในด้านการท่องเที่ยวให้มากขึ้น

จากนั้นนายกฯ เดินรับชมตลาดซงจื่อ ซึ่งเป็นสถานที่ขายเสื้อผ้าจีนบาติก โดยนายกฯ กล่าวชื่นชม และได้สอบถามเพิ่มเติมถึงการต่อยอดทำผ้าบาติกนอกเหนือจากเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียว เพื่อเพิ่มรายได้ สร้างจุดขายมากขึ้น

ต่อมา นายกฯ ได้รับฟังบรรยายศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และเยี่ยมชมมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” และรับชมกิจกรรมการเชิดสิงโต ประจําปี 2567 ของจังหวัดปัตตานี

ทั้งนี้ นายกฯ ยังแวะร้านเลี่ยนโฮ่ฮวด โชว์ฝีมือทำขนมเบื้องญวน ซึ่งจะทำปีละครั้งในงานเทศกาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ก่อนนั่งชิมขนมเบื้องญวน และชิมขนมโคปัตตานีกับรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และนางพาตีเมาะ สะดีนามู ผู้ว่าฯ จ.ปัตตานี โดยนายกฯ บอกว่าอร่อย จากนั้น นายกฯ สักการะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ก่อนชมการแสดงเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย เพื่อเป็นการต้อนรับ ทั้งนี้ สิงโต ได้มอบลูกแก้วให้กับนายกฯ โดยนายกฯ ได้มอบอั่งเปาเป็นรางวัล ก่อนที่สิงโตจะอวยพรให้นายกฯ อายุมั่นขวัญยืนเฮงๆ รวยๆ โดยนายกฯ ได้เดินทักทายพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน พร้อมร่วมเซลฟี่ด้วยอย่างเป็นกันเอง

จากนั้นนายกฯ สักการะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ก่อนชมการแสดงเชิดสิงโตบนเสาดอกเหมย เพื่อเป็นการต้อนรับ ทั้งนี้ สิงโต ได้มอบลูกแก้วให้กับนายเศรษฐา โดยนายกฯ ได้มอบอั่งเปา โดยคณะเชิดสิงโตอวยพรให้นายกฯ อายุมั่นขวัญยืนเฮงๆ รวยๆ

ทั้งนี้ นายกฯ ได้ทวีตข้อความผ่าน X ว่ามาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเมืองปัตตานี ได้แก่ บ้านขุนพิทักษ์รายา, บ้านเลขที่ 5 กือดาจีนอ, ตลาดวัฒนธรรมกือดาจีนอ ตลาดซงจื่อ และศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ครับ สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้เชื่อมโยงสถานที่สำคัญบนถนนสายวัฒนธรรมในย่านการค้าดั้งเดิมของเมืองท่าปัตตานี ชื่อ เส้นทาง อา-รมย์-ดี ย่อมาจากชื่อถนน 3 สาย คือ อาเนาะรู-ปัตตานีภิรมย์-ฤดี 

เราจะจัดทำให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางพหุวัฒนธรรม เพื่อเรียนรู้ความสำคัญของเมืองท่าปัตตานี การติดต่อค้าขาย และความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมมลายูผ่านรูปแบบของอาคารบ้านเรือน ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของชาวปัตตานีครับ

นอกจากนี้ ผมอยากยกระดับการอนุรักษ์เมืองเก่า โดยเสนอให้ย่านเมืองเก่าปัตตานี เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เช่นเดียวกับเมืองเก่าฮอยอันในประเทศเวียดนาม และเมืองเก่าสงขลา เป็นต้น โดยเน้นความเชื่อมโยงในลักษณะพหุวัฒนธรรมที่ผสมผสานด้วยกันระหว่าง ไทย จีน และมุสลิม

ผมยังได้เยี่ยมชมมหกรรมท่องเที่ยวปัตตานีอาเซียน “กตัญญูคู่ฟ้ามหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี” ประจำปี 2567 ด้วย ผมอยากยกระดับงานประเพณีแห่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ให้ได้รับความนิยม และอยากให้ศาลเจ้าแม่ฯ เป็นหมุดหมายของผู้ศรัทธาจากทั่วโลกครับ

ต่อมาเวลา 19.30 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี โดยนายกฯ ได้พูดคุยกับคณะกรรมการกลางอิสลาม ซึ่งตัวแทนกล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยี่ยมเยียน พร้อมอ่านดุอาอ์ขอพรจากพระเจ้าให้นายกฯ มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข

นายกฯ กล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมมัสยิด รู้สึกประทับใจ ทั้งนี้ จากการรับฟังรายงานทราบว่า มัสยิดแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2506 ถือว่าเป็นมัสยิดที่มีความสวยงาม วันนี้ตนเองนำรัฐมนตรีมาหลายท่าน มาดูโอกาสของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และดีใจที่ได้มาจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดแรก ได้มาดูวัฒนธรรมประเพณี ได้เห็นศักยภาพของจังหวัดปัตตานี ยืนยันรัฐบาลให้การสนับสนุน เพื่อให้จังหวัดเมืองรองสามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าในพื้นที่มากขึ้นเพื่อสร้างรายได้สู่จังหวัด โดยมอบให้ ศอ.บต. ไปดูเรื่องสาธารณูปโภคทั้งหมดของมัสยิดในพื้นที่ภาคใต้