ญาติคาใจหญิงสาววัย 57 ปี ดับกลางถนนที่โคราชมีรอยยุบกลางหน้าผาก

ญาติคาใจหญิงสาววัย 57 ปี ดับกลางถนนที่โคราชมีรอยยุบกลางหน้าผาก





ad1

จากกรณีที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31จุดขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย บริเวณถนนบ้านหนุก ต.ขามสะแก อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนางศรัญญา สอนมณี อายุ 57 ปี ชาว.อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น แม่ค้าขายไก่ย่าง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดลักษณะคว่ำหน้า มีบาดแผลยุบที่บริเวณหน้าผากขนาดใหญ่ ถัดมาพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มอยู่ข้างศพ แต่ไม่มีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชน ตามข่าวที่ได้นำเสยอไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 80 บ้านทรายมูล หมู่ 2 ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิต โดยพบว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกยึดตามกฎหมายตกเป็นทรัพย์สินของบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยได้พบกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ ขอสงวนชื่อ-สกุล) หลานสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งได้พาผู้สื่อข่าวเดินดูบ้านของผู้ตาย 

น.ส.เอ กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นของผู้ตายซึ่งเปิดเป็นร้านขายของตังแต่ตนเองเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา แต่ก็ย้ายไปค้าขายที่บ้านของลูกชาย ที่ จ.สุรินทร์ ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่จ.นครราชสีมากับแฟนใหม่ ซึ่งก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวให้ฟังตลอด เพราะปกติตนเองจะสนิทกันกับนางศรัญญา มีอะไรก็จะเล่าให้ฟัง 

"ยายเคยเล่าให้ฟังว่า แฟนใหม่ที่คบกันหลังจากแยกทางกับสามี มักมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยประจำ อาจเพราะช่วงอายุต่างกันมากเพราะยายอายุเกือบจะ 60 ปีแล้ว ส่วนแฟนใหม่ของยายเท่าที่ทรายอายุ 30 กว่าปีเท่านั้น โดยหลายครั้งที่คุยกับยาย ยายจะพูดบ่อยๆว่าอยากกลับมาบ้าน แต่ไม่มีบ้านให้กลับแล้ว อยู่ที่โคราชก็ไม่มีใครดูแล เวลาป่วยไม่มีคนดูแลเลย และช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่ยายจะเสียชีวิต ยายได้เล่าให้ฟังว่าทะเลาะกันหนักตลอด 1 สัปดาห์ หลังจากที่ญาติทราบข่าวว่ายายเสียชีวิต ก็พยายามโทรสอบถามราละเอียดกับทางแฟนใหม่ของยาย แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร แถมโดนตะคอกใส่ว่าโทรมาทำไมเป็นสิบสายร้อยสาย บอกแค่ไม่รู้ไม่เห็นไปทำงานที่อื่น ก่อนจะไปให้สัมภาษณ์ว่าเลี้ยยงวัวอยู่หลังบ้าน และเวลาที่ยายกลับมาเยี่ยมญาติๆที่ขอนแก่น หากแฟนใหม่มาด้วยจะไม่มีใครลงจากรถ จะแวะมาทักทายเอาของฝากมาให้แล้วก็กลับทันที จึงไม่มีใครได้เคยคุยหรือสัมผัสนิสัยใจคอแฟนใหม่ของยายเลย กระทั่งสุดท้ายยายเสียชีวิตดังกล่าว"

ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นาย ธนูเดช ธรรมสงค์ อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.9 ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่นหลายชายคนตาย กล่าวว่าญาติๆที่ทราบข่าว ต่างติดใจสาเหตุการเสียชีวิตในเรื่องที่พบศพตามข่าว ก่อนที่จะทราบนั้นมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโทรศัพท์กลับมาตามเบอร์โทรในสายล่าสุดที่ นางศรัญญา โทรหาเป็นญาติที่อยู่อีกหมู่บ้าน บอกว่านางศรัญญาเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดมาก บอกแค่ว่าเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดอุบัติหรือไม่ก็ถูกทำร้าย โดยมีญาติๆที่อยู่ กรุงเทพฯ รวมทั้งลูกชายและลูกสาว มาเดินเรื่องนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.น้ำพอง  ส่วนในทางคดีทราบทางข่าวว่าน้องชายสามีใหม่ถูกจับไปแต่ไม่ทราบว่ารับสารภาพหรือไม่ทราบว่ายังอยู่ในอาการคลั่งอยู่

"ประเด็นที่ติดใจนั้น ทำไมสามีไม่ทราบเรื่อง ทั้งที่จุดที่เลี้ยงวัวกับจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้กัน แต่กลับบอกไม่รู้ไม่เห็น ญาติๆโทรไปก็บอกว่าโทรมาทำไมบ่อยครั้ง เดี๋ยวถ้าทราบเรื่องแล้วจะโทรมาบอก และมีทรัพย์สินหายไปคือสร้อยคอทองคำและเงินสดแต่ไม่ทราบจำนวน รวมทั้งโทรศัพท์ผู้ตายและกระเป๋าสตางค์ไปอยู่กับสามีได้อย่างไรหลังเกิดเหตุ แต่กลับบอกไม่รู้เรื่อง ญาติๆโทรไปหาก็ถูกโวยวายกลับจนทะเลาะกัน ที่เราโทรไปเราก็อยากจะรู้รายละเอียดของเหตุการณ์ พอทราบข่าวต่างคนก็ต่างเสียใจ ในส่วนของศพอยู่ระหว่างรับกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดวัดศรีบุญเรือง ในหมู่บ้าน โดยเผาในวันที่ 30 เม.ย."

 นายธนูเดช กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนประเด็นที่ติดใจอีกประเด็นคือ ลักษณะเหตุการณ์เหมือนการจัดฉากด้วยการเอนรถจักรยานยนต์ให้ล้มลงเหมือนว่าเกิดอุบัติเหตุ แต่สภาพนั้นจากข้อสันนิษฐานทำไม่เนียนเอามาตะแคงไว้เฉยๆ และห่างจากศพหลายเมตร โดยศพอยู่กลางถนนติดกับร้านไก่ย่างที่น้าศรัญญาขาย และหลังร้านก็เป็นบ้านถัดไปเป็นจุดที่เลี้ยงวัว การสงสัยนั้นสงสัยว่าสามีมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะทีแรกบอกเราว่าทำงานอยู่ที่อู่ แต่มาให้ข่าวว่าเลี้ยงวัวอยู่ ซึ่งพูดไม่ตรงกัน ทำให้เกิดความสงสัยและตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่