สกัดนักท่องเที่ยวทะลัก!ญี่ปุ่นเริ่มใช้ "ระบบสองราคา" ชาร์จเพิ่มต่างชาติ แพงกว่าคนในประเทศ
ธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น เริ่มใช้ระบบ "สองราคา" ลดราคาให้นักท่องเที่ยวในประเทศ และบวกราคาเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว หลังตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลไปญี่ปุ่น ครึ่งแรกของปีนี้พุ่งเป็น 17.78 ล้านคน
สำนักข่าวเอพี รายงานว่า บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในญี่ปุ่น เริ่มใช้ระบบ "สองราคา" (Dual Price) หรือการลดราคาเพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวในประเทศ และบวกราคาที่สูงขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเที่ยวญี่ปุ่นมากถึง 17.78 ล้านคน เฉพาะช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากการอ่อนค่าลงของเงินเยนเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้การเปิดตัวระบบสองราคาสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องจ่ายแพงกว่านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเอง ทำให้เกิดความกังวลในประเทศเกี่ยวกับกลยุทธ์ของรัฐบาลญี่ปุ่นในการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 60 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2573
ด้านหัวหน้าองค์การการท่องเที่ยวฮอกไกโดเรียกร้องให้ธุรกิจต่างๆ ในจังหวัดทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ที่สวยงามและรีสอร์ตฤดูหนาว ตั้งราคาที่ต่ำกว่าสำหรับคนในท้องถิ่น โดยระบุว่ากำลังผลักดันให้ทดลองใช้ระบบสองราคาในฤดูใบไม้ร่วงนี้
ขณะที่หนังสือพิมพ์โยมิอุริ รายงานอ้างคำเปิดเผยของหัวหน้าผู้ประกอบการโรงแรมแห่งหนึ่งในฮอกไกโดว่า จำเป็นต้องมีส่วนลดให้คนญี่ปุ่น เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะยังไม่ทิ้งรีสอร์ตยอดนิยมอย่างนิเซโกะ หลังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่มาจำนวนมาก
นายฮิเดยาสุ คิโยโมโตะ นายกเทศมนตรีเมืองฮิเมจิ ทางตะวันตกของประเทศ กล่าวว่า จะเพิ่มค่าธรรมเนียมการเข้าชมปราสาทฮิเมจิขึ้นอีก 4 เท่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อเข้าชมป้อมปราการซามูไรสมัยศตวรรษที่ 17 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก พร้อมระบุว่า ปัจจุบันค่าเข้าชมคิดในอัตราสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 1,000 เยน หรือประมาณ 6.44 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ต่อไปจะอยู่ที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และ 5 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับชาวญี่ปุ่น