กัมพูชาตั้งเป้ามีรถยนต์ไฟฟ้า 40% มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 70% ในปี 2593

กัมพูชาตั้งเป้ามีรถยนต์ไฟฟ้า 40% มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 70% ในปี 2593





Image
ad1

สำนักข่าวซินหัว  รายงานว่า นาย เพิง โพเนีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งของกัมพูชา เปิดเผยว่า กัมพูชาตั้งเป้าหมายมีรถยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 40 และจักรยานยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 70 ภายในปี 2593 เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน โดยการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามีส่วนส่งเสริมการลดผลกระทบจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มาจากยานยนต์ใช้น้ำมัน

นายโพเนีย ได้ข้าร่วมการประชุมเผยแพร่นโยบายแห่งชาติเพื่อการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ปี 2567-2573 กล่าวอีกว่า ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง นอกจากช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมและสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น ยังมีส่วนส่งเสริมการกระจายฐานเศรษฐกิจและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานอีกด้วย

ปัจจุบันกัมพูชามียานยนต์ใช้น้ำมันกว่า 7 ล้านคัน ซึ่งร้อยละ 85 เป็นจักรยานยนต์ ร้อยละ 10 เป็นรถยนต์ และร้อยละ 5 เป็นรถบัส รถบรรทุก และเครื่องจักรกลหนัก ขณะเดียวกันมียานยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนรวม 3,676 คัน และสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า 21 แห่ง โดยแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมในกัมพูชา ได้แก่ บีวายดีของจีน โตโยต้าของญี่ปุ่น และเทสลาของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ นโยบายแห่งชาติเพื่อการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของกัมพูชา ระบุว่า การใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายเพียง 9,633 เรียล (ราว 79 บาท) ต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ส่วนยานยนต์ใช้น้ำมันมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 35,723 เรียล (ราว 293 บาท) ต่อระยะทางเดียวกัน

ด้านนายอุดม พิเซ ผู้จัดการแผนกยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัท คาร์4ยู จำกัด ซึ่งนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้าเลติน เมนโก (Letin Mengo) จากจีน กล่าวว่า ยานยนต์ไฟฟ้ามีค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซมถูกกว่ายานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งประหยัดค่าเชื้อเพลิงและช่วยลดมลพิษทางอากาศ.