‘เชียงราย’อ่วม! ‘พายุฤดูร้อน’ถล่มหลายอำเภอ วัด โรงเรียน โรงพยาบาล เสียหายยับ

‘เชียงราย’อ่วม! ‘พายุฤดูร้อน’ถล่มหลายอำเภอ วัด โรงเรียน โรงพยาบาล เสียหายยับ





Image
ad1

หลังจากอากาศร้อนอบอ้าวมาตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดฝนตกและพายุลมพัดแรงในบางพื้นที่ของ จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.แม่ลาว นอกจากจะมีฝนและพายุแล้ว ยังมีลูกเห็บตกลงมา ทำให้มีต้นไม้ กิ่งไม้ หักโค่นบางจุดขวางถนน เช่น บ้านห้วยส้านดอนจั่น ต.จอมหมอกแก้ว และบางส่วนของ ต.ป่าก่อดำ ทำให้อาคารบ้านเรือนหลายแห่งได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะส่วนของหลังคาบ้าน รวมทั้งป้ายด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เป็นต้น ทำให้ถนนบางสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้โดยสะดวก โดยล่าสุดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ นำกำลังเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านและสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เวลาประมาณ 18.00-19.30 น.วันที่ 18 มี.ค.68 เกิดพายุฝน และลมแรงจากพายุฤดูร้อนในจังหวัดเชียงราย  มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนครั้งนี้ เบื้องต้นรวม 2 อำเภอ 5 ตำบล คือ ต.จอมหมอกแก้ว , ต.ป่าก่อดำ , ต.บัวสลี , ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว และ ต.ธารทอง อ.พาน ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตกมี 7 อำเภอ คือ อ.เมืองเชียงราย , อ.แม่จัน , อ.เทิง , อ.พาน , อ.แม่ลาว , อ.เวียงชัย และ อ.พญาเม็งราย

ด้านนายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นายอำเภอแม่ลาว เปิดเผยว่า พายุฤดูร้อนนี้ เกิดนานประมาณ 30 นาที ที่อ.แม่ลาว มีความเสียหาย 15 หมู่บ้านใน 4 ตำบล คือ ต.จอมหมอกแก้ว , ต.ป่าก่อดำ , ต.บัวสลี และต.ดงมะดะ  ส่วนตำบลที่ได้รับความเสียหายหนักสุด คือ ต.จอมหมอกแก้ว และ ต.ป่าก่อดำ สถานที่ราชการได้รับความเสียหาย 3 แห่งคือ โรงเรียนอนุบาลจอมหมอกแก้ว , โรงเรียนป่าก่อดำ , โรงพยาบาลแม่ลาว วัดได้รับความเสียหาย 1 แห่ง คือ วัดห้วยส้านดอนจั่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย แขนหัก1 ราย หน้าต่างพัดใส่จนสลบ 1 ราย ส่งไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว  อีกทั้งตึกผู้ป่วยในโรงพยาบาลแม่ลาว หลังคาได้รับความเสียหาย ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ ต้องใช้เวลาปรับปรุงฟื้นฟู 3-5 วัน ส่วนผู้ป่วยได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และโรงพยาบาลสมเด็จพระญาณสังวร ที่อำเภอเวียงชัย

ด้านนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ประสานกับฝ่ายปกครองอำเภอต่างๆ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่มีฝนตกและพายุลมกระโชกแรง ให้ทำการสำรวจความเสียหาย และเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด