ปิดฉากยิ่งใหญ่ "งานโอทอป" ช้อปกระจาย ฟันยอดขาย 771ล. หนุนศก.ฐานราก


ตามที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จัดงาน OTOP MIDYEAR 2025 เพื่อส่งเสริมการตลาด สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ OTOP ตามนโยบายของคณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “OTOP ทันโลก ทันสมัย เศรษฐกิจไทยยั่งยืน” 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-15 มิถุนายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 - 3 อิมแพค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากประชาชนที่เข้าร่วมชมงานเป็นอย่างดี ปิดฉากอย่างสวยงามพี่น้องประชาชนทั่วไทย ที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นจำนวนมาก มีผู้เข้าชมงานตลอดงานทั้งสิ้น 266,282 คน มียอดรวมการจำหน่าย 9 วัน กว่า 771 ล้านบาท โดยวันสุดท้ายแจกใหญ่ทองคำรวมมูลค่ากว่า 4 แสนบาท นอกจากนี้ 9 วันที่ผ่านมามียอดจำหน่ายในงานและผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมกว่า 24,987,718.28 บาท ซึ่งเป็นการผนึกกำลังในการกระตุ้นยอดขายกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด Online ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ประชาชนนิยมซื้อมากสุดในครั้งนี้ คือ ผ้าและเครื่องแต่งกาย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า งาน OTOP Midyear 2025 ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการผลักดันเศรษฐกิจฐานรากและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับชุมชน ซึ่งเราหวังว่าสินค้าเหล่านี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบการ OTOP ในนามกระทรวงมหาดไทย เจ้าภาพการจัดงานขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ของคนไทย สินค้าไทย คือพลังบวกของประเทศ ใช้พลังบวกผ่านการ อุดหนุนสินค้าไทย งานนี้ไม่เพียงเป็นการจับจ่ายเพื่อความสุข แต่ยังเป็นการส่งต่อพลังบวกให้แก่พี่น้องในท้องถิ่นทั่วประเทศ เสริมเศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำ และร่วมกันสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นในทุกมุมของสังคมไทย ใครไม่ซื้อ ไทยซื้อไทย ในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สะท้อนให้เห็นความเข้มแข็งของชุมชนและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้า OTOP ให้เป็นที่รู้จักในระดับกว้างมากขึ้นต่อไป
ด้านนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ในปีนี้มียอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ทั้งงานรวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 771,513,017.79 บาท โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเลือกซื้อ 5 อันดับแรก คือ 1) ผ้าและเครื่องแต่งกาย 51.4% 2) ของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก 11.4% 3) อาหาร 10.8% 4) สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 3.5% และ 5)เครื่องดื่ม 2.8% โดยจังหวัดที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด 5 จังหวัดแรก คือ 1) สุรินทร์ 2) จันทบุรี 3) ลำพูน 4) เชียงใหม่ และ 5) สุโขทัย ตามลำดับ
ภายในงานมีกิจกรรมตลอดทั้งวันไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนาทีทอง มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียง และกิจกรรมจับคูปองชิงโชค Gift Voucher ทุกวัน โดยช่วงค่ำ (19.00 น.) วันนี้มีการจับรางวัลจากคูปองชิงโชคที่รวบรวมไว้ตลอด 9 วัน เป็นรางวัลทองคำ มูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท ได้รับเกียรติจาก นางอรจิรา ศิริมงคล ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน และคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมจับรางวัล โดยผู้โชคดีได้รับทองคำ หนัก 50 สตางค์ จำนวน 6 รางวัล ได้แก่
1.คุณเกษมกิต กาญจนศุภศิริ
2.คุณสุวพร พลางกูร
3.คุณพิมพ์พรรณ กาญจนสุทธิแสง
4.คุณนันทพร สรรพอาษา
5.คุณธนารัตน์ อนุวัฒน์ปรีชา
และ 6. คุณพิศาล จันทร์ศรีวงศ์
รางวัลทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 3 รางวัล ได้แก่
1.คุณเดชพล วิภูศิริ
2.คุณศลิษา วิภูศิริ
และ 3. คุณพรพรรณ ปิติเลิศอภินนท์
และรางวัลทองคำ หนัก 2 บาท จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ คุณพรรณี พันธุ์ทวี
ทั้งนี้ ผู้โชคดีหากอยู่ในงานสามารถติดต่อรับรางวัลได้ที่บริเวณข้างเวทีกลาง ชาเลนเจอร์ 2 หากไม่อยู่ภายในงานสามารถติดต่อขอรับรางวัลได้ที่ สำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 5 ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 หมายเลขโทรศัพท์ 021416050 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.00 น. เป็นต้นไป