“ปลาหมอบัตเตอร์เขื่อนสิริกิต์ ภัยคุกคามเงียบที่สังคมไทยปิดตา”


ปลาหมอบัตเตอร์ (Heterotilapia buttikoferi) หรือ Zebra cichild เป็นหนึ่งในปลาต่างถิ่น (Alien Species) ที่แพร่ระบาดหนักในเขื่อนสิริกิต์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่ช่วงปี 2546-2547 ก่อนที่กรมประมงจะประกาศห้ามนำเข้าและส่งออก เพาะเลี้ยงและห้ามมีไว้ในครอบครองในปี 2561 แต่คนบางกลุ่มและสังคมส่วนหนึ่งพยายามปิดตากับความจริง ทั้งที่การแพร่ระบาดของปลาชนิดนี้สร้างผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศน้ำจืดในเขื่อนสิริกิต์ ที่กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์หลักของปลาหมอบัตเตอร์ และเป็นภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ชุมชนประมงพื้นบ้านที่อาศัยสัตว์น้ำในเขื่อนเป็นอาหาร ปัญหานี้ที่ถูกมองข้ามจึงเป็นดัชนีชี้วัดความล้มเหลวของการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในประเทศไทยและความยุติธรรมในสังคม
เมื่อถูกระบุว่าเป็นปลาต่างถิ่นห้ามนำเข้า ปลาหมอบัตเตอร์ จึงเป็นปลาที่ถูกลักลอบนำเข้าโดยผิดกฎหมาย และถูกปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติโดยไม่มีการควบคุมไม่ว่าก่อนหรือหลังการมีกฎหมายห้านนำเข้าและมีไว้ในครอบครอง ซึ่งพบครั้งแรกในเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2546–2547 ความเสียหายที่เกิดขึ้นช่วงก่อนมีมาตรการควบคุมถือว่ารุนแรงและเรื้อรัง ทั้งต่อระบบนิเวศ ประมงพื้นบ้าน และปลาท้องถิ่นที่ถูกแทนที่อย่างรวดเร็วจากพฤติกรรมดุร้ายและการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วของปลาชนิดนี้
ข้อมูลจากการสำรวจของกรมประมงและนักวิจัยชี้ว่า ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ปลาหมอบัตเตอร์กลายเป็นหนึ่งในสายพันธุ์หลักที่จับได้มากที่สุด ปลามีขนาดใหญ่ แข็งแรง และกินปลาไข่ ปลาเล็ก และกุ้งก้ามกรามเป็นอาหาร สร้างผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การติดตามต้นตอของปลาชนิดนี้กลับไม่ปรากฎตัวผู้นำเข้า และไม่เคยหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้เลยแม้แต่รายเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น กลับไม่มีแรงกดดันจากภาคประชาสังคม หรือองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมใดๆ เรียกร้องให้รัฐแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน แตกต่างจากกรณีของปลาหมอคางดำที่ถูกผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งที่ทั้งสองชนิดส่งผลกระทบในระดับเดียวกัน ปรากฏการณ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความลักลั่นของระบบการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่ขาดความเสมอภาคในการบังคับใช้กฎหมายและการควบคุมความเสียหาย
สังคมไทยต้องจับตาและได้รับข้อมูลความจริงต่อภัยจากปลาหมอบัตเตอร์ ที่กำลังบ่อนทำลายความมั่นคงของระบบนิเวศน้ำจืดไทยอย่างเงียบงันมายาวนาน หากเรายังคงเพิกเฉยปล่อยให้การลักลอบนำเข้าและปล่อยลงธรรมชาติยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีการเอาผิดอย่างจริงจัง ย่อมเป็นการบั่นทอนความยุติธรรมในระบบ และเปิดทางให้เกิดความเสียหายซ้ำซากโดยไม่มีวันจบ
ไม่เพียงแต่ปลาหมอบัตเตอร์ ปลาหมอมายัน ก็เป็นหนึ่งใน Alien Species ที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ที่ภาครัฐต้องเปิดเผยข้อมูลและสอบสวนย้อนหลังเกี่ยวกับการนำเข้าปลาทั้งสองชนิดนี้ และดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้ลักลอบนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือองค์กรใดก็ตาม อีกทั้งขอให้ภาคประชาสังคมและผู้เรียกร้องด้านสิ่งแวดล้อม เคลื่อนไหวด้วยความเป็นธรรม หันมาให้ความสำคัญกับปลาหมอบัตเตอร์อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับกรณีปลาหมอคางดำ เพื่อให้เกิดการจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างเป็นธรรม เท่าเทียม และมีประสิทธิภาพ
หากสังคมละเลย ปลาหมอบัตเตอร์ก็จะยังคงแพร่พันธุ์อย่างอิสระในผืนน้ำไทย และคำว่า "ยุติธรรมทางนิเวศ" ก็จะกลายเป็นเพียงคำพูดลอยลม ที่ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง.
โดย...สินี ศรพระราม นักวิชาการอิสระ