เจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่สึก ขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ยันไม่มีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกากอล์ฟ

เจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่สึก ขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์  ยันไม่มีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกากอล์ฟ





Image
ad1

สำนักพุทธฯ ระบุ ท่านเจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่ลาสิกขา ขอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ยัน ไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกากอล์ฟ แค่ให้ยืมเงินหลักหมื่นบาท ด้าน เจ้าคณะใหญ่หนกลางสั่งพักทุกตำแหน่งชั่วคราว 

บรรยายกาศที่วัดไตรมิตร นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินทางมาพูด “พระปวรเมธี หรือเจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร” ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง

นายบุญเชิด ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากที่มหาเถรสมาคม องค์กรการปกครองคณะสงฆ์ไทยได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ในการประชุมดังกล่าวได้มีมติมอบอำนาจหน้าที่ให้กับเจ้าคณะใหญ่ สืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ หากพระรูปไหนที่เข้ามารายงานตัวแล้วก็สามารถเข้ามาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ และในครั้งนี้เป็นการสอบสวนโดยชอบด้วยกฎหมาย เรายังให้โอกาสพระทุกรูป

และเปิดเผยว่าในวันนี้เจ้าคุณประสิทธิ์มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถึงอย่างไรทางเจ้าคณะใหญ่ก็จะต้องรอการตรวจสอบจากทางตำรวจด้วย และเพื่อเป็นการพิจารณาข้อมูลจากตำรวจว่าท่านเองมีความผิดถึงระดับใด และยืนยันว่าวันนี้เจ้าคุณประสิทธิ์ ยังไม่มีการลาสิกขาแต่อย่างใด แต่เป็นการมาพบเจ้าคณะใหญ่หนกลางเพื่อนำเอกสารมาชี้แจงแสดงความบริสุทธิ์

โดยท่านเจ้าของประสิทธิ์ ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ใช่การหนี เพียงแค่รอว่าทางคณะปกครองสงฆ์ จะพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของท่านอย่างไร ซึ่งก็ในวันนี้ไปเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ท่านมาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าคณะใหญ่ ซึ่งทางเจ้าคณะใหญ่เองจึงเห็นควรว่าระหว่างที่ท่านเองถูกกล่าวหา จึงขอพักตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และรองเจ้าคณะภาค 15 ไว้ก่อน จนกว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรวบรวมพยานหลักฐานในคดีอาญาแล้วนำมามอบให้กับสำนักพุทธพิจารณา เพื่อพิจารณาว่ามีความผิดระดับใด ก็จะมีการ กำหนดบทลงโทษต่อไปตามความเหมาะสม แต่ถ้าหากตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็จะกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมได้ 

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟนั้น ท่านเจ้าคุณประสิทธิ์ ชี้แจ้งว่าสีกากอล์ฟ เป็นฝ่ายทักหาอ้างว่าอยากจะทำบุญแล้วสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองป่วยหลายครั้ง ก่อนจะมาขอยืมเงินไป รวมๆแล้วประมาณหลักหมื่นบาท ซึ่งก็ให้เป็นเงินสดไป เพราะท่านเจ้าคุณประสิทธิ์อ้างว่าในโทรศัพท์มือถือไม่มี Application ธนาคาร ส่วนความสัมพันธ์เชิงชู้สาว เจ้าคุณประสิทธิ์ ยืนยันว่าไม่มี

เมื่อถามว่าเจ้าคุณประสิทธิ์เครียดหรือไม่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายบุญเชิด ระบุว่า จากการที่ท่านได้เห็นกระแสข่าวท่านก็มีความเครียด เพราะมีการจับแพะชนแกะกล่าวหาว่าท่านเอาเงินให้กับโยมคนนั้น คนนี้มากมาย ท่านก็ตกใจ เพราะท่านก็ถือว่าท่านเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ที่เป็นผู้บริหารของมหาวิทยาลัยสงฆ์ 

เมื่อถามว่าทางเจ้าคณะใหญ่จะมีการเรียกพระที่มีส่วนพัวพันเข้ามาอีกกี่รูป นายบุญเชิด ระบุว่าในส่วนของเจ้าคณะใหญ่หนกลางมีอยู่หนึ่งรูป คือเจ้าคุณประสิทธิ์ และอีกหนึ่งรูปอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าควรจะเรียกตัวท่านเข้ามาหรือไม่

ส่วนพระสงฆ์อีก 2 รูปคือ พระมหาทิวากร อาภทฺโท เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท จังหวัดสมุทรสาคร และพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้ แต่เมื่อช่วงเช้าสามารถติดต่อผ่านคนกลางได้ ซึ่งเจ้าคณะใหญ่คนเหนือเองก็มีความกังวลใจ จึงจะมีการประชุมกันเพื่อหาทางออก เพราะพระราชรัตนสุธีเงียบหายอย่างนี้คงจะต้องมีมาตรการอย่างไรต่อไป  

เมื่อถามว่ากังวลใจหรือไม่ว่าเจ้าคุณประสิทธิ์จะเงียบหายไปเหมือนพระอีก 2 รูป นายบุญเชิด ระบุว่าไม่กังวลใจ เพราะท่านมีการติดต่อกับตนเองอยู่ตลอดเวลาผ่านคนกลาง และตนก็เป็นคนบอกกับท่านเองว่าท่านต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าคณะใหญ่ พร้อมบอกว่าตัวท่านเจ้าคุณประสิทธิ์เอง ถึงจะเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสแต่ท่านเองไม่ได้มีการยุ่งเกี่ยวกับเงินของวัด  / เมื่อถามว่าหลังจากนี้ทางเจ้าคุณประสิทธิ์เอง จะต้องจำวัดอยู่ที่ไหน นายบุญเชิด ระบุว่าระหว่างที่มีการตรวจสอบนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของท่านที่จะจำพรรษาที่วัดใดก็ได้

เมื่อถามว่าอย่างกรณีพระผู้ใหญ่ 2 รูปที่ติดต่อไม่ได้เงียบหายจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดออกมาหรือไม่  นายคุณเชิด ระบุว่าตอนนี้สำนักพระพุทธศาสนาอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีส่วนตัวของพระสงฆ์และบัญชีวัด และถ้าหากหายไปจากวัดเกิน 30 วัน ตามกฎหมายแล้วก็จะถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที

เมื่อถามว่าในวันนี้ทาง CIB เปิดศูนย์ทำนุบำรุง พระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย หากใครพบเห็นพระสงฆ์กระทำความผิดให้แจ้งเบาะแส เรื่องนี้ทางสำนักพุทธได้มีการประสานข้อมูลในส่วนนี้ด้วยหรือไม่ นายบุญเชิด ระบุว่าทางสำนักพุทธจะมีการประสานข้อมูล กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าใครถูกกล่าวหาอย่างไรบ้าง และจะส่งข้อมูลให้กับทางเจ้าคณะใหญ่พิจารณาตามกฎระเบียบของมหาเถรสมาคม