กองทัพบก แจงปม "ปราสาทตาควาย" ยืนยันได้พื้นที่เพิ่ม แต่ยึดเนิน 350 ไม่ได้


โฆษก ทบ. แถลงปม "ปราสาทตาควาย" ยอมรับการบาดเจ็บของกำพลจากสนามทุ่นระเบิด มีผลต่อการรุกคืบในคาบสุดท้าย ยืนยันสามารถคุมพื้นที่ได้มากกว่าเดิม เพียงแต่ไม่มีกำลังประจำอยู่ที่ตัวปราสาท
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในพื้นที่ที่มีปฏิบัติการทหารทั้งหมด มีเพียงปราสาทตาควายที่เดียวที่มีข้อจำกัดหลายสิ่งหลายอย่าง การควบคุมพื้นที่ ถือว่าพื้นที่ทั้งหมดสามารถควบคุมได้ตามแผนทางทหารที่วางไว้ แต่ตาควายเป็นความพยายามสุดท้าย ทั้งฝ่ายไทยเราควบคุมได้ด้วยอาวุธยิง โดยปราสาทตาควายอยู่ทางด้านกลาง พื้นที่สำคัญทางการทหารไม่ใช่พื้นที่ปราสาท เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ เราจึงให้ความสำคัญกับการคุมพื้นที่บริเวณ
สำหรับในห้วงสุดท้ายที่มีการใช้กำลัง เราพยายามที่จะกระทำต่อเป้าหมายจุด 06 ทางการทหาร คือเนิน 350 อาจจะมองว่าอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อทางปฏิบัติทางการทหาร ตรงนี้เป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ไว้ให้ได้ แต่เนื่องจากเวลาที่มีไม่เพียงพอ อย่างน้อยเราก็ใช้พื้นที่การควบคุมพื้นที่ในส่วนรวม โดยการควบคุมใช้อาวุธ
โดยเนิน 350 เป็นที่วางกำลังกัมพูชา ซึ่งจากเนินนั้น ใช้อาวุธยิงมาบริเวณตัวปราสาทด้วย ทำให้เราไม่สามารถวางกำลังประจำได้ กลายเป็นเป้าหมายทางทหารที่นิ่ง ค่อนข้างมีความอ่อนแอ ไม่เหมือนเนิน 350 เป็นภูมิประเทศที่แตกต่างจากที่อื่น เรามีข่าวสารว่า หากเคลื่อนที่ไปโดยผลีผลามในปราสาทตาควาย ก็จะถูกยิงด้วยอาวุธ BM-21 ซึ่งพร้อมจะจู่โจมเรา แต่ในห้วงสุดท้ายเราก็ยังมีความพยายามที่จะเข้าสู่ที่หมาย ทั้งเนิน 350 และปราสาทพร้อมๆ กัน แต่เนื่องจากการดำเนินการห้วงเย็น ได้เจอสนามทุ่นระเบิดในรอบปราสาทตาควาย ทำให้เหตุนั้นทำให้กำลังพบสำคัญ คือ "หมวดบุ๊ค" บาดเจ็บสาหัส ยอมรับว่าการบาดเจ็บจากสนามทุ่นระเบิด มีผลต่อการรั้งหน่วงที่จะรุกคืบในคาบสุดท้ายของเรา ซึ่งเราก็มีความพยายามที่จะสร้างสมดุลในภารกิจสุดท้าย ทั้งกำลังใจของกำลังพล และภารกิจของเรา จนในท้ายที่สุดเมื่อเวลาหมด เราก็สามารถคุมพื้นที่ได้มากกว่าเดิม เพียงแต่ว่า เราอาจจะไม่มีกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย
สรุปแล้วตอนนี้ จริงๆ ปฏิบัติการทางทหาร ทางเราไม่ได้หมายถึงสิ่งปลูกสร้างอย่างเดียว หมายถึงองค์ประกอบโดยรอบ เรียกว่าเป็น "พื้นที่" ถ้าพูดถึงพื้นที่ปราสาทตาควาย เราได้พื้นที่เพิ่มเติม และในพื้นที่ที่เราได้ ก็ถือว่าเราสามารถควบคุมตัวปราสาทได้ เพียงแต่ว่าที่เราเห็นทหารกัมพูชาอยู่ที่บริเวณตัวปราสาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการหยุดยิง จึงหยุดปฏิบัติการทางทหารไว้เท่านั้น แต่เชื่อว่าไม่ได้หมายความว่าใครที่เดินในปราสาทจะเป็นผู้แพ้ผู้ชนะในการต่อสู้บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย
โดยตาควายเป็นพื้นที่เดียวที่มีการวางกำลังของทหารทั้ง 2 ฝ่าย และให้ข้อมูลมาตลอดว่า ปราสาทตาควาย ยังเป็นพื้นที่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายให้ความสำคัญ เพราะมันอยู่ที่มุมมองว่าจะพูดตัวพื้นที่ปราสาทอย่างไร ทหารไม่ได้มองเฉพาะตัวปราสาท เรามองว่าอาจจะเป็นเป้าหมายด้วยซ้ำไป พื้นที่การควบคุมทางการทหารแบบอื่น อาจจะมีความสำคัญมากกว่า
โดยเรื่องทุ่นระเบิดที่ละเมิดสัญญา มีความชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่ 2 ที่พยานที่ช่องบก ตรงนี้เป็นเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน เพราะเป็นผู้ประสบเหตุจริงๆ ซึ่งจะเห็นว่าตอนที่มีคนพาชมปราสาท จะเป็นสิ่งบอกเหตุว่า มีพวงทุ่นระเบิดแบบ PMN - 2 ว่าไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว เป็นลักษณะพวง เป็นสิ่งบอกเหตุว่าจำนวนมันเยอะจริงๆ แม้ในปัจจุบันการต่อสู้ทางการทหารจะคลี่คลายลงไปบ้าง แต่ในการต่อสู้เวลาต่างประเทศเรายังคงดำเนินการต่อ ซึ่งหลักฐานและข้อพิสูจน์เหล่านี้ เรายังเก็บไว้ทั้งหมด