ศรีสะเกษย้ายผู้อพยพจากสถานศึกษากระจายพำนัก 4 แห่งรับเปิดภาคเรียน

ศรีสะเกษย้ายผู้อพยพจากสถานศึกษากระจายพำนัก 4 แห่งรับเปิดภาคเรียน





Image
ad1

จังหวัดศรีสะเกษ มีความจำเป็นต้องย้ายผู้อพยพจากสถานศึกษาเพื่อความต่อเนื่องของการเรียนการสอน ย้ำดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้ นายสุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการเคลื่อนย้ายผู้อพยพจำนวน 820 คน ที่พักอาศัยอยู่ใน ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา อำเภอเบญจลักษ์ เนื่องจากโรงเรียนจะเปิดภาคเรียนในวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2568 นี้

สุริยา บุตรจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ

การเคลื่อนย้ายครั้งนี้ มีความจำเป็นเพื่อ ให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ และเพื่อให้ประชาชนผู้อพยพได้รับการดูแลในสถานที่ที่เหมาะสมและเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น  โดยผู้อพยพสามารถพักอยู่ในโรงเรียนเบญจลักษ์พิทยาได้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม 256 อำเภอเบญจลักษ์ได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงใหม่จำนวน 4 แห่ง เพื่อรองรับประชาชนที่ต้องเคลื่อนย้าย ได้แก่:

1. วัดหนองงูเหลือมเหนือ (500 คน)

 2. วัดป่าเบญจลักษ์ (200 คน)

 3. หอประชุม อบต.เสียว (100 คน)

 4. ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเบญจลักษ์ (50 คน)

เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น ได้มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมสิ่งของจำเป็น และจัดเตรียมอุปกรณ์ที่เคยได้รับไปแล้วให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนย้าย 
        
การบริหารจัดการในศูนย์พักพิงแห่งใหม่จะอยู่ภายใต้ การอำนวยการของนายอำเภอเบญจลักษ์ นายธนเดช พระอารักษ์ พร้อมบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ ทั้งด้านอาหาร ที่พัก สุขอนามัย และความปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการขอสนับสนุนงบประมาณจาก เงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาวะฉุกเฉินจากภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ

จังหวัดศรีสะเกษขอย้ำว่า การเคลื่อนย้ายในครั้งนี้ รวมทั้งมีแผนการเคลื่อนย้ายในศูนย์พักพิง (ชั่วคราว) อื่น ๆ ที่ ตั้งอยู่ในสถานศึกษา โรงเรียน เป็นการจัดการตามแผนที่มีความรับผิดชอบรอบด้าน มุ่งหวังให้ทั้งนักเรียนในสถานศึกษาและประชาชนผู้ประสบภัยได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด พร้อมขอความร่วมมือและความเข้าใจจากพี่น้องประชาชน เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกันอย่างมั่นคง

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน