ชาวบ้านตำบลปอน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เดือดร้อนหนัก จากปัญหาน้ำน่านกัดเซาะตลิ่ง จนบ้านพังทั้งหลัง ที่ดินหายกลายเป็นแม่น้ำ วอนขอเขื่อนป้องกันตลิ่ง

ชาวบ้านตำบลปอน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน เดือดร้อนหนัก จากปัญหาน้ำน่านกัดเซาะตลิ่ง จนบ้านพังทั้งหลัง  ที่ดินหายกลายเป็นแม่น้ำ  วอนขอเขื่อนป้องกันตลิ่ง





Image
ad1

นายสุพงศ์  ขะจาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปอน  อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านปอน หมู่6 และ ผู้ใหญ่บ้านป่าเปือย หมู่ 7 และตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากพายุวิภา ซึ่งทำให้กระแสน้ำในแม่น้ำน่าน ได้กัดเซาะตลิ่งจนบ้านเรือนประชาชนกว่า 28 หลังคาเรือนได้รับความเสียหายและมีความเสี่ยงมาก  โดยยื่นหนังสือต่อนายสัญญา กามินทร์  ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน และ นางสาวระรินธร  เพ็ชรเจริญ ประธานชมรมสื่อสารสาธารณะภาคเหนือ สื่อมวลชนจังหวัดน่าน  ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน  เพื่อขอให้ทางจังหวัด เร่งดำเนินการสำรวจออกแบบและก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในพื้นที่ตำบลปอน อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน

นายวิชิต เรศมณเฑียร หรือ อาจารย์ชิต อดีตหัวหน้าวงดนตรีวงแม่น้ำ  ซึ่งบ้านเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและเป็นศูนย์สอนเด็กและเยาวชนด้านดนตรี  ตั้งอยู่บริเวณโค้งน้ำ  โดยเปิดเผยว่า ทุกๆปี กระแสน้ำก็กัดเซาะตลิ่งจนเนื้อที่ดินหายไปกว่าครึ่ง  ล่าสุดจากพายุวิภา กระแสน้ำเชี่ยวกรากได้กัดเซาะตลิ่งจนบ้านหายไปทั้งหลัง และเหลือเนื้อที่ดินน้อยกว่าในโฉนด  นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่ง ซึ่งจากเนื้อที่ตามโฉนด 8 ไร่  ตอนนี้กลายเป็นแม่น้ำไปทั้งหมด  เหลือแต่เพียงโฉนดแต่ไม่มีที่ดินแล้ว

นายสุพงศ์  ขะจาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปอน   กล่าวว่า พื้นที่ตำบลปอน ได้รับผลกระทบเรื่องปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งมาโดยตลอด แต่อุทกภัยจากพายุวิภา ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร  พื้นที่การเกษตร และพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ทั้งโรงเรียนบ้านปอน   อาคารสำนักงาน อบต.ปอน   และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.2 ปอน ทุ่งช้าง ซึ่งปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่งครั้งนี้มีความงรุนแรง โดยเฉพาะพื้นที่บ้านปอน หมู่ 6  และ บ้านป่าเปือย หมู่ 7  มีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบและเสี่ยงอย่างหนัก รวมกว่า 28 หลังคาเรือน ซึ่งหากยังไม่มีการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง  หมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงตามแนวตลิ่งจำเป็นต้องอพยพย้ายออกทั้งหมด โดยการยื่นหนังสือครั้งนี้ ต้องการให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ทำการสำรวจและออกแบบเขื่อน ป้องกันตลิ่ง ระยะทางกว่า 1,000  เมตร  เนื่องจากเกินศักยภาพของนายช่าง  อบต.ปอน  และด้านงบประมาณการก่อสร้างด้วย

นายสัญญา กามินทร์  ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน ภายหลังรับหนังสือและรับฟังปัญหาความต้องการของผู้นำชุมชนแล้ว เปิดเผยว่า จะเร่งดำเนินการทำบันทึกเสนอถึง นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน  เพื่อพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป พร้อมทั้งจะแจ้งผลการดำเนินการให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลปอนทราบความคืบหน้าเป็นระยะ