“ถนนคนเดิน”พัทลุง โมเดลปั้นเถ้าแก่น้อยสอดคล้อง “เศรษฐกิจการศึกษา”


จุดประกายโรงเรียนเทศบาล “เศรษฐกิจการศึกษา” รู้จักหาเงิน-รู้จักออม-รู้จักประกอบการ ใช้ “ถนนคนเดิน”เป็นโมเดล กับเด็กประถมศึกษา ทำมาค้าขายสินค้า ขายได้และไม่ขาดทุน ขายมีกำไรปันผลคืนกำไร เพียงอาทิตย์เด็กทำยอดเงินได้กว่า 30,000 บาท คาดภายในปี 1 มีเงินรวมกว่า 1 ล้านบาท ทั้งธนาคาร ออมสะสมไม่ต้องพึ่งพา “พ่อแม่” ในอนาคตถึงเช้ามหาวิทยาลัย
ดร.สมบัติ ชนะสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผย ว่า ได้มีนโยบายเศรษฐกิจการศึกษา ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้เด็กรู้จักการหาเงิน รู้จักการทำมากินประกอบการ และการออมเงิน ซึ่งทางเทศบาลได้ดำเนินการไปแล้วในระยะแรก ประมาณการว่าจะทยอยเกิดความเข้มแข็งในระยะต่อไป ซึ่งสำคัญจะเป็นระยะเวลาแห่งการปลูกฝังทางการศึกษาเศรษฐกิจกับนักเรียนให้ซึมซับในระยะยาว ซึ่งจะเป็นผลในการดำเนินชีวิตในทิศทางที่ดีในอนาคตเมื่อเติบใหญ่
“เศรษฐกิจการศึกษาดำเนินการในโรงเรียนสังกัดเทศบาลตำบลแม่ขรี ที่มีนักเรียนประมาณ 740 คน ให้เกิดจิตวิญญาณรู้จักหาเงิน รู้จักออม และรู้จักทำมาหากิน ตั้งแต่วัยเด็ก”
ดร.สมบัติ กล่าวว่า โครงการ 1.ธนาคารขยะ เพื่อให้เด็กนักเรียนทุกคนเก็บขยะสะสมทุกวันแล้วนำมาฝากไว้กับธนาคารขยะที่วัดแม่ขรีประจำทุกวันเสาร์ ซึ่งมีธนาคารออมสินทำการเปิดบัญชีให้กับเด็กเพื่อจะเป็นเงินสะสมและเป็นรายได้ประจำของเด็กจากการเก็บขยะเข้าธนาคารขยะ
“สำหรับโครงการธนาคารขยะ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รู้จักการคัดแยกขยะ เช่น ประเภทขยะอินทรีย์ ส่วนนี้จะสามารถนำไปหมักเพื่อทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ ในส่วนขยะรีไซเคิล ก็นำไปขาย ส่วนประเภทขยะอันตรายและขยะทั่วไปแยกไว้เพื่อส่งให้กับเทศบาลได้ดำเนินการกำจัดต่อไป”
ส่วนขยะที่เป็นประโยชน์นำมาขายซึ่งเป็นการสร้างรายได้เสริมให้กับครัวเรือนและยังช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องทิ้งในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดคุณค่าประโยชน์
ดร.สมบัติ ยังกล่าวอีกว่า 2. โครงการเงินออมสะสมวันละ 1 บาท เพียงสัปดาห์เดียวมียอดรวมเงินออมสะสม โดยห้อง ป. 2/1 จำนวน 5,936 บาท ป.2/3 จำนวน 140 บาท ป.2/3 2,446 บาท ป.2/4 2,351 บาท ป.3/2 6,627 บาท ป.4/1 1,454 บาท ป.4/2 375 บาท ป.4/3 2,755 บาท ป.5/1 1,515 บาท ป.5/3 2,380 บาท ป.6/2 10,975 บาท ป.6/3 760 บาท โดยรวมเป็นยอดเงินสะสม จำนวน 37,714 บาท
“เพียงสัปดาห์เดียวของปี 1 ได้ยอดเงินสะสมระดับนี้ หากประมาณ 1 ปี มีแนวโน้มว่าจะมีเงินสะสมรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ทั้งขนาดธนาคารขยะและเงินออมสะสมวันละ 1 บาท”
ดร.สมบัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีโครงการ 3 คือโครงการลงทุน โดยเด็กนักเรียนจะมาร่วมกันลงทุนประกอบการ คือการค้าขาย ที่จะต้องค้าขายสินค้าที่ขายได้และมีกำไรเท่านั้น และจะค้าขายที่เป็นสินค้าที่ไม่ขาดทุน เช่น ข้าวสาร และขนม เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ขาดทุนจะไม่ดำเนินการ ทั้งนี้โดยจะให้เด็กไม่ต้องเอาเงินพ่อแม่มาลงทุนแต่อย่างใด โดยเด็กจะเอาเงินสะสมในโครงการออมสะสมวันละ 1 บาท กับธนาคารขยะมาลงทุน ซึ่งดำเนินการในโครงการสหกรณ์โรงเรียน
“ส่วนการตลาดที่ค้าขายโดยจะให้เด็กนำมาค้าขายที่ถนนคนเดิน ซึ่งเป็นตลาดยอดนิยมย่านดาวน์ทาวน์กลางใจเทศบาลตำบลแม่ขรี”
ดร.สมบัติ กล่าวอีกว่า ให้ทุกช่องทางจะก่อให้เกิดการขยายผลสร้างมูลค่าเพิ่มรายได้ให้กับเด็ก โดยเงินกำไรจะนำไปปันผลให้กับเด็กที่ลงหุ้น แล้วเก็บเข้าบัญชีสะสมต่อจะเป็นการต่อยอดเพิ่มมูลค่าอีกทางหนึ่งอนาคตเด็กจะสามารถเพิ่มพาตนเองได้ โดยเฉพาะค่าเทอมและเด็กจะมีความสามารถพึ่งตนเองจนเข้ามหาวิทยาลัยได้
ในอนาคตเด็กเติบใหญ่ขึ้นมาก็ได้ซึมซับรู้จักคุณค่าจากการหาเงิน ออมเงิน การทำงาน ได้รู้จักวิธีคิด วิธีทำมาหากิน และจะสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีคุณภาพประสิทธิภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดคูณูปการอันสำคัญต่อการดำเนินชีวิต.