อลังการ!เทศกาล "วันคเณศจตุรถี" เฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติพระคเณศ @ “PRACHINBURI” Night at The Museum

อลังการ!เทศกาล "วันคเณศจตุรถี" เฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติพระคเณศ @ “PRACHINBURI” Night at The Museum





Image
ad1

ปราจีนบุรี– ชวนสายมูเที่ยวเทศกาล "วันคเณศจตุรถี" เฉลิมฉลองวันประสูติของพระคเณศในกิจกรรม “PRACHINBURI” Night at The Museum ครั้งที่ 3 ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรีระหว่างวันที่ 22 - 24 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 - 21.00 น.

เมื่อเวลา 18.55 น. วันที่ 19 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี นางสาววัชรี ชมภู ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี  กล่าวว่า  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ขอเชิญสักการะพระคเณศ 1,400  ปี เนื่องในเทศกาล "วันคเณศจตุรถี" ในกิจกรรม “PRACHINBURI” Night at The Museum ครั้งที่ 3 แสงสีแห่งศรัทธา ราตรีศรีคเณศวรย้อนรอยอดีต “ปราจีนบุรี" จากทวารวดี...สู่รัตนโกสินทร์ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี  ระหว่างวันที่ 22 - 24 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 - 21.00 น.

นางสาววัชรี ชมภู ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี

เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยการสร้างกิจกรรมยามค่ำคืนสร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในส่งสังคมไทย ให้เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของประชาชนในทุกช่วงวัย เป็นหมุดหมายใหม่ของการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นการกระตุ้นการเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง สร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นและพื้นที่โดยรอบ

กิจกรรมต่างๆมากมายในงาน ร่วมเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ไปกับการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน สักการะพระพิฆเนศ องค์เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุกว่า 1,400 ปี  การแสดงนาฏศิลป์สร้างสรรค์ ทั้ง 4 ชุด ในรูปแบบ Mini Light and Sound “ย้อนรอยอดีตพันปี เมืองปราจีนบุรี จากทวารวดี...สู่รัตนโกสินทร์”  การแสดงดนตรี/การแสดงนักเรียนในจังหวัดปราจีนบุรี สินค้า craft ศิลปะ ของทำมือ และสินค้า D.I.Y  บูธอาหารและเครื่องดื่ม มากกว่า 30 ร้าน

และชมโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ฯ ศิลปวัตถุที่พบจากแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ในภาคตะวันออก ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราดและระยอง รวมไปถึงจังหวัดนครนายก นำเสนอเรื่องราวในภูมิภาคตะวันออก เริ่มตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในช่วงก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 20

ร่วมพลังจัดงานโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก ร่วมกับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปราจีนบุรี หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี โดย กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์  สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี  นางสาววัชรีกล่าว

และกล่าวต่อไปว่า  วันคเณศจตุรถี เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองวันประสูติของพระคเณศ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวันที่พระคเณศจะทรงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ เพื่ออวยพรแก่ผู้เลื่อมใสที่ทำพิธีบูชาพระองค์ และ เพื่อเปิดให้สักการะพระคเณศ อายุมากกว่า 1,400 ปี เป็นกรณีพิเศษ จะจัดมีดอกดาวเรืองบริการและรับการ์ดที่ระลึกรูปพระคเณศ ฟรี ใน “เทศกาลคเณศจตุรถี” เป็นเทศกาลประจำปีเพื่อสักการะบูชาพระพิฆเนศที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย

สำหรับพระคเณศแห่งเมืองศรีมโหสถนี้ พบที่โบราณสถานหมายเลข 22 กลางเมืองศรีโหสถ อายุกว่า 1,400  ปี พระคเณศ เป็นเทพเจ้าซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมนับถือมากในศาสนาฮินดูในฐานะเทพแห่งอุปสรรค ที่ชาวฮินดูเมื่อจะประกอบพิธีทางศาสนา จะต้องบูชาพระคเณศก่อน พระคเณศ จึงกลายเป็นเทพแห่งความรู้และความเฉลียวฉลาด เทพอักษรศาสตร์และวรรณคดี และเทพแห่งศิลปวิทยา

พระคเณศศิลาองค์นี้ เป็นประติมากรรมหินขนาดใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งในประเทศไทย พบจากการขุดค้นเมืองโบราณศรีมโหสถ เมื่อพ.ศ. 2515 ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ เมืองพระรถ ดงศรีมหาโพธิ์ สูง 1.70 เมตร พบ ณ เทวาลัยกลางเมืองพระรถ ดงศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี

เมืองนี้มีชื่อว่าอวัธยปุระในต้นพุทธศตวรรษที่ 18 ตามจารึกภาษาขอมสั้นๆ ที่สลักบนฐานคันฉ่องสัมฤทธิ์ ค้นพบที่ซากโบราณสถานหมายเลข 11 ซึ่งอยู่นอกเมืองพระรถทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในและนอกเมืองนี้ได้เคยค้นพบประติมากรรมสมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 12-16) และลพบุรี (พุทธศตวรรษที่ 16-18) รวมทั้งเทวรูปรุ่นเก่า (พุทธศตวรรษที่ 12-13) เมืองพระรถเป็นเมืองรูปไข่ กว้าง1 กิโลเมตร ยาว 2 กิโลเมตร มีคูกว้าง 16 เมตรล้อมรอบ ใกล้คูทางทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตกยังคงมีร่องรอยของกำแพงศิลาแลงสูง 6 เมตร กำแพงนี้คงเป็นกำแพงล้อมรอบเมืองมาก่อน

เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้ค้นพบประติมากรรมรูปพระคเณศองค์นี้หน้าเทวาลัยหลังสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใหญ่ที่สุดซึ่งอยู่ตรงกลางของหมู่ และมีบ่อน้ำอยู่เบื้องหลัง ได้ค้นพบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เป็นเทวรูปซึ่งไม่ทรงเครื่องอาภรณ์ประทับนั่งอยู่เหนือฐานศิลาใหญ่ซึ่งมีร่องสำหรับให้น้ำมนต์ไหลอยู่เบื้องหน้า (โยนี) เส้นนูนซึ่งอาจเป็นสายรัดองค์หรือขอบผ้าทรงยังคมมีเหลืออยู่บนบั้นพระองค์ด้านหลัง

จากด้านหลังของพระเศียรลงมามีรอยสลักเว้าเข้าไปทางตอนกลางของพระองค์ พระคเณศทรงมีแต่เพียง 2 พระหัตถ์ และหัตถ์ทั้งสองก็หักไปหมดสิ้น ด้านหน้าของพระพักตร์ก็แตกหักไปเช่นเดียวกัน แต่ยังคงมองเห็นงาด้านขวาและสีพระพักตร์ซึ่งแสดงถึงความมีอำนาจได้ มีลายก้านขดเล็กๆ และเส้นข้างใต้อีกเส้นหนึ่งเหนือต้นงวงทางด้านขวา พระกรรณและด้านบนของพระเศียรสลักตามแบบศรีษะช้างอย่างแท้จริง

เป็นประติมากรรมพระพิฆเนศที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในประเทศไทย ในเมืองศรีมโหสถ ซึ่งเป็นเมืองโบราณยุคทวารวดี   สร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยบูชาพระศิวะในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิไศวนิกาย   ยังมีรูปลักษณ์เหมือนช้างตามธรรมชาติ ประทับนั่งขัดสมาธิบนฐานโยนี พระหัตถ์ข้างหนึ่งถืองาที่หัก อีกข้างถือถ้วยขนมโมทกะ  นางสาววัชรีกล่าว

โดย...มานิตย์ สนับบุญ - ข่าว /ณัฐนันท์ – ภาพ / ปราจีนบุรี