อีกหลักฐานชี้ชัด “หลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา”โบราณ ปักปันแดนตั้งแต่สมัย ร.5

อีกหลักฐานชี้ชัด “หลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา”โบราณ ปักปันแดนตั้งแต่สมัย ร.5





Image
ad1

ปราจีนบุรี – พบ“หลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา”ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี โบราณวัตถุชั้นต้นอีก 1หลักฐานชัดเจนที่ระบุชัดเจนไทย – กัมพูชาปักปันเขตแดนแล้วตั้งแต่สมัย ร.5 แล้วไม่ใช่เพิ่งปักปัน ชี้ชัด!ถึงกรณีที่กำลังมีปัญหาที่บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น สระแก้ว แม้มีหลักเขตแดนกรุงสยาม – กัมพูชาเห็นปรากฎชัดเจน แต่เกัมพูชายังทึกทักเอาหนองจาน โนนหมากมุ่น แผ่นดินในดินแดนตรงด่านปอยเปต แหล่งกาสิโน ที่ซ่องสุมแก๊งอาชญากรทางไซเบอร์และหลักเขตไทยที่ตั้งอยู่ที่ด่านปอยเปต อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วปัจจุบันนี้ นั้นไม่ใช่ดินแดนกัมพูชา ล้วนเป็นของไทย!ทั้งสิ้น

เมื่อวันที  22 ส.ค.2568  ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี พบเพจของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี : Prachinburi National Museum  พร้อมภาพถ่ายหลักเขตแดนไทย -กัมพูชาที่ 50  และ  ได้ระบุข้อความอธิบายประกอบภาพว่า ...กรณีที่ปรากฏกระแสข่าวเกี่ยวกับหลักเขตแดนไทย -กัมพูชา นั้น  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ขอนำเสนอบทความที่เคยตีพิมพ์ไว้แล้ว เมื่อปีพ.ศ. 2564 เรื่อง"หลักเขตแดนที่ 50 โบราณวัตถุชิ้นล่าสุดของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ...      

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี  พบนางสาววัชรี ชมภู  ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี กล่าวว่า    "หลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา เป็นโบราณวัตถุชิ้นล่าสุด  ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี    มีขนาดกว้าง 40 เซนติเมตร หนา 40 เซนติเมตร สูง 123 เซนติเมตร

สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรับมอบจากจาก ทายาทของ พลเอกมังกร  พรหมโยธี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2559ต่อมาได้ส่งมอบให้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 16กันยายน 2564

หลักเขตแดนกรุงสยาม – กัมพูชา     กั้นชายแดนระหว่างกรุงสยาม และกัมพูชาฝรั่งเศส โดยการดำเนินการปักปันเขตแดน ระหว่างปี พ.ศ. 2451 – 2452  ในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นหลักปูนซีเมนต์สี่เหลี่ยม ปลายตัดแหลม  มีข้อความ 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย เขมร อังกฤษ และฝรั่งเศส ปรากฏอยู่ทั้ง 4 ด้าน 

มีจำนวน  73  หลัก  เริ่มต้นหลักที่ 1 ที่ บริเวณช่องเกล หรือช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีษะเกษ ไปทางทิศตะวันตกตามแนวเทือกเขาบรรทัดลงไปทางทิศใต้จนกระทั่งสิ้นสุดลงที่หลักที่ 73 บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่างบ้านหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด กับบ้านจามเยียม จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันหลักเขตเหล่านี้มีอายุ 114 ปี นับจากปีที่เริ่มการปักปันเขตแดน

สำหรับ   หลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา เดิมตั้งอยู่ที่ด่านปอยเปต อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2483 กองทัพฝรั่งเศสเคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดนไทย ส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดที่จังหวัดนครพนม  วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2484 ไทยประกาศสงครามกับฝรั่งเศส    แม่ทัพคือพลเอกมังกร พรหมโยธี ทัพไทยเปิดแนวรบโดยกองพลพายัพ กองทัพอีสาน กองทัพบูรพา กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ร่วมกันโจมตีอินโดจีนของฝรั่งเศสในทุก ๆ ด้าน

ในที่สุดฝ่ายไทยมีท่าทีว่าจะชนะเด็ดขาด  ญี่ปุ่นซึ่งมีฐานทัพอยู่ในอินโดจีนเสนอตัวเข้าไกล่เกลี่ยด้วยเกรงว่าหากไทยชนะจะเป็นอุปสรรคต่อการที่ญี่ปุ่นจะรุกรานลงใต้ ผลจากการไกล่เกลี่ย ฝรั่งเศสยินยอมยกดินแดนที่เคยยึดไปจากไทยสมัยรัชกาลที่ 5 คืนให้ฝ่ายไทย    โดยมีการลงนามในอนุสัญญา 3 ฝ่ายระหว่างไทย ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น  เมื่อวันที่9พฤษภาคม พ.ศ. 2484 หลักเขตแดนไทย-กัมพูชาที่อรัญประเทศจึงถูกยกเลิกหลักเขตหมายเลข 49 และ 50 ถูกถอนออก

จากการรบในสงครามอินโดจีนครั้งนั้นทำให้ไทยสูญเสียกำลังพลทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน จำนวน 59 คน ต่อมาภายหลังรัฐบาลไทยจึงสร้างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเชิดชูเกียรติ เทิดทูนวีรกรรมของผู้สละชีวิตในการปกป้องประเทศ 

สำหรับหลักเขตหมายเลข 49ได้มอบไว้แก่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์  ส่วนหลักเขตหมายเลข 50 พลเอกมังกร พรหมโยธี ได้รักษาไว้และตกทอดสู่ทายาท ซึ่งภายหลังทายาทพลเอกมังกร พรหมโยธี ได้แก่ คุณเจตกำจร  พรหมโยธี คุณกำจรเดช  พรหมโยธี  คุณอภิภู พรหมโยธี  และคุณองคฤทธิ์ พรหมโยธี ได้มอบไว้ให้กรมศิลปากรเพื่อดูแลรักษา และเป็นสาธารณประโยชน์ในเผยแพร่ประวัติศาสตร์ชาติไทยในช่วงระยะเวลาดังกล่าวแก่อนุชนรุ่นหลังสืบไป และที่ จ.ปราจีนบุรียังมีค่ายพรหมโยธี เป็นชื่อค่ายทหารในจังหวัดปราจีนบุรี

โดยตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ พันเอก หลวงพรหมโยธี (มังกร พรหมโยธี) อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด รองแม่ทัพบก และแม่ทัพภาคบูรพา ค่ายแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และ กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์กองพลทหารราบยานเกราะที่สมบูรณ์แบบในประเทศแห่งแรก  นางสาววัชรี กล่าว

และกล่าวต่อไปว่า   สำหรับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี มีความสำคัญในฐานะ   ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีของภาคตะวันออก โดยจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และหลักฐานทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของชุมชนในภูมิภาคตะวันออก อิทธิพลของวัฒนธรรมทวารวดีและเขมร และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับ เมืองโบราณศรีมโหสถ และ พระคเณศที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย

างสาววัชรี ชมภู  ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

และในวันนี้ (22 ส.ค.) เป็นงานวันแรกที่จัด   "PRACHINBURI” Night at The Museum ครั้งที่ 3 “แสงสีแห่งศรัทธา ราตรีศรีคเณศวร” ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี กำหนดงานระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00-21.00 น. มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น การสักการะพระคเณศโบราณอายุกว่า 1,400 ปี, การแสดงแสงสีองค์พระพิฆเนศกลางบ่อน้ำ, นิทรรศการพิเศษโดยภัณฑารักษ์, การแสดงดนตรีนาฏศิลป์, ตลาดสินค้าแฮนด์เมดและอาหาร, และกิจกรรม DIY.  และเชิญชวนศึกษาข้อมูล  หลักเขตแดนที่ 50 กรุงสยาม – กัมพูชา”ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี  นางสาววัชรี กล่าวในที่สุด

โดย... มานิตย์ สนับบุญ 081-5583238-ข่าว/ณัฐนันท์ – ภาพ/ ปราจีนบุรี ###