ทหารไทยตรึงชายแดนแม่สอดเข้มหลังกองทัพเมียนมาโจมตีกะเหรี่ยงหนัก

ทหารไทยตรึงชายแดนแม่สอดเข้มหลังกองทัพเมียนมาโจมตีกะเหรี่ยงหนัก





Image
ad1

ทหารไทย เฝ้าระวังชายแดน ตะวันตก หลัง กองทัพเมียนมา โจมตีกะเหรี่ยง หนัก หวังยึดพื้นที่คืน เสียงปืนดังสนั่น รุกคืบใกล้ถึงเมียวดี- ยุทธการรบ ใช้โดรนทั้งระเบิด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา กองทัพรัฐบาลเมียนมายังคงทุ่มกำลังทหารบุกโจมตีอย่างหนักเพื่อหวังยึดเมืองเมียวดี ในรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก คืนจากทหารกะเหรี่ยง แต่ได้รับการต่อต้านจากกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Liberation Army–KNLA) ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU)และกองกำลังกลุ่มพันธมิตร เช่น กองกำลังพิทักษ์ประชาชน ( People's Defence Force: PDF) โดยการสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือดต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาซึ่งได้ยินเสียงปืนชัดเจน ถึงชายแดนฝั่งไทย

ศูนย์ข้อมูลกะเหรี่ยง (Karen Information Center-KIC) รายงานว่า กองทัพเมียนมาต้องเผชิญความสูญเสียอย่างหนักและขบวนทหารแตกพ่าย หลังถูกกองกำลัง KNLA และPDF ร่วมกันซุ่มโจมตีในหลายจุด เช่นบริเวณใกล้หมู่บ้านหย่านโก๊ก บนถนนสายเก่าข้ามภูเขาดอน่า เชื่อมระหว่างเมืองกอกาเร็กและเมียวดี

โดยทหารพม่าเริ่มยิงปืนใหญ่จากฝั่งหย่านโก๊กตั้งแต่ประมาณ 5 ทุ่มคืนวันที่ 1 กันยายน พอรุ่งเช้าวันที่ 2 กองทัพพม่าได้เคลื่อนขบวนขึ้นมา 3 ทิศทาง แต่ถูกกองกำลังฝ่ายต่อต้านตัดกำลังจนต้องถอยกลับไปทางหมู่บ้านหย่านโก๊ก ทิ้งทั้งศพทหารและผู้บาดเจ็บไว้ในสนามรบโดยไม่สามารถเก็บกู้กลับไปได้ 

KIC รายงานว่า กองกำลังทหารเมียนม่าที่ถอยกลับจากแนวรบได้เคลื่อนกำลังกลับเข้าพื้นที่อีกครั้ง โดยมีการยิงปืนใหญ่จากฐานในเมืองไฮ่งวายสนับสนุนแนวรบฝั่งหมู่บ้านหย่านโก๊กและหล่ายเซ็งอย่างต่อเนื่อง

กองทัพเมียนมาเคลื่อนกำลังจากหย่านโก๊กเพื่อกลับไปเก็บศพที่ทิ้งไว้แถวสะพานญีหน่องและหล่ายเซ็ง บางศพเป็นนายทหารระดับสูง” แหล่งข่าวท้องถิ่นจากเมืองกอกาเร็ก รัฐกะเหรี่ยง

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 จนถึงวันนี้ กองทัพเมียนม่าได้ระดมกำลังจากกองบัญชาการยุทธการพิเศษเขต 12 เปิดยุทธการเต็มรูปแบบในหลายแนวรบ ทั้งถนนสายใหม่, ถนนสายเก่าข้ามดอน่าภู และพื้นที่แนวเมืองเมียวดี-ซิงยันญีน่อง โดยใช้ปืนใหญ่ขนาด 120 มม. “Howitzer” และจรวดหลายลำกล้อง "Mizine" ยิงถล่มต่อเนื่อง พร้อมเคลื่อนกำลังภาคพื้นดินกว่า 500 นายเข้าสู่แนวรบ

รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารเมียนมาได้ใช้ โดรนแบบพลีชีพ (Kamikaze Drone) โจมตีใส่โรงเรียนสอนภาษากะเหรี่ยงของกระทรวงการศึกษาและวัฒนธรรม (KECD) ในความดูแลของ KNU พื้นที่กองพลที่ 7 รัฐกะเหรี่ยง ขณะที่นักเรียนกำลังเรียนหนังสือ โดยโดรนลำหนึ่งพุ่งชนและระเบิดภายในบริเวณโรงเรียน เป็นเหตุให้ ครูชาย 1 ราย ครูหญิง 1 ราย และนักเรียนอีก 1 คน ได้รับบาดเจ็บ
โดยมีโดรนบินเข้ามา 3 ลำ แต่ที่ตกลงมาระเบิดจริง ๆ มีเพียงลำเดียว มีครูบาดเจ็บ 2 คน กับนักเรียน 1 คน ส่วนความเสียหายของอาคารเรียนยังไม่ทราบแน่ชัด" แหล่งข่าวในพื้นที่กล่าวกับ KIC

KIC ยังมีรายงานอีกว่า ทหารเมียนมา ได้ใช้โดรน 4 ลำทิ้งระเบิดโจมตีด่านตรวจของกองกำลังปลดปล่อยประชาธิปไตยกะเหรี่ยง (DKBA) บริเวณทางแยกถนนกอกตวาน-กอกปะนอ ในเขตรัฐมอญ โดยระเบิดตกใส่รถโดยสารที่กำลังผ่านบริเวณดังกล่าว ทำให้ผู้โดยสารชาย 1 รายเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 ราย ซึ่งรวมถึงหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่งกล่าวว่า เนื่องจากเป็นบริเวณด่านตรวจ รถทุกคันต้องชะลอความเร็ว ตอนนั้นเองที่ระเบิดตกลงมา พวกเราต้องรีบพาผู้บาดเจ็บ 4 รายส่งโรงพยาบาลในมะละแหม่ง แต่มี 1 รายที่เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล อีก 3 รายอาการสาหัส ส่วนผู้บาดเจ็บคนอื่น ๆ ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น

ก่อนหน้านี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองพันทหารราบเคลื่อนที่เร็วที่ 208 ซึ่งอยู่ภายใต้กองบัญชาการภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของกองทัพพม่าได้ เคยใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีด่าน DKBA บริเวณสะพานซัมเปียกู ส่งผลให้พลเรือนในรถโดยสาร 3 คันได้รับความเสียหาย 

ขณะที่แหล่งข่าวจากฝั่งไทย ระบุว่า ทหารเมียนมา ค่ายไหล่วะ ได้ทำการยิง อาวุธหนัก เป็นระยะ ๆ เข้าไปยังเป้าหมายบริเวณพื้นที่ บ้านทีมูทะ , บ้านนุโพ , บ้านแม่กะไน และ บ้านโด่งตะดา อ.เมียวดี จ.เมียวดี ด้านตรงข้ามบ้านริมเมย หมู่.2 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เคลื่อนไหว ของกองกำลังกลุ่มต่อต้าน

แหล่งข่าวระบุว่า ในวันเดียวกันนี้กองกำลังกลุ่มต่อต้านที่นำโดย KNU ได้ปะทะกับ ทหารพม่าหน่วยขึ้นตรง กองพลทหารราบเบาที่ 55 บริเวณพื้นที่ เขากะแนคอคี เขตกอกาเร็ก ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาในการปะทะกัน ประมาณ 30 นาที ซึ่งการสู้รบอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทยด้านแม่น้ำเมยไปประมาณ 8 กิโลเมตร 

รายงานข่าวแจ้งว่า หมู่บ้านห้วยส้านซึ่งเป็นชุมชนคนไทยพลัดถิ่น ใน จ.เมียวดี ชาวบ้านได้ยินเสียงปะทะกันตลอดทั้งวัน ล่าสุดพม่าได้เข้ามาปักหลักที่บ้านทีมูทะกว่า 200 นาย ห่างจากตัวเมืองเมียวดี เพียงแค่ 16 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ยังคงวางกำลังเฝ้าตรวจ ติดตามสถานการณ์ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย 
////////