12 ฟาร์มยักษ์สุกรไทยรวมกลุ่มควบคุมการเลี้ยงหมูรักษาเสถียรภาพราคายั่งยืน

12  ฟาร์มยักษ์สุกรไทยรวมกลุ่มควบคุมการเลี้ยงหมูรักษาเสถียรภาพราคายั่งยืน





Image
ad1

นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า  กรมปศุสัตว์ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือคุมปริมาณสุกรให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ พร้อมประชุมคณะทำงานรักษาเสถียรภาพราคาสุกร ครั้งที่ 2/2568

ทั้งนี้มีนายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานรักษาเสถียรภาพราคาสุกร ครั้งที่ 2/2568 พร้อมด้วยนายกฤติพิพัฒน์ รัตนนาวินกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสิรมและพัฒนาการปศุสัตว์ นายณรงค์ เลี้ยงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักควบคุม ป้องกัน และบำบัดโรคสัตว์ ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะทำงาน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

ในการนี้กรมปศุสัตว์ยังร่วมเป็นพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือคุมปริมาณสุกรให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภคภายในประเทศระหว่าง สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ จำนวน 12 ราย ตามแผนการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อควบคุมปริมาณสุกรขุน ด้วยการตั้งต้นที่การควบคุมปริมาณแม่พันธุ์สุกร ให้อยู่ในปริมาณสมดุล ซึ่งจะส่งผลถึงปริมาณผลผลิตสุกรขุนให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ เพื่อลดความผันผวนทางด้านราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรในภาพรวมทั้งประเทศ

นายปรีชา กล่าวอีกว่า กรมปศุสัตว์ ได้มีโครงการควบคุมมาตรฐานการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร กับกลุ่มผู้เลี้ยงและการค้าสุกร 12 บริษัทฟาร์มสุกรารายใหญ่ของประเทศ โดยแต่ละบริษัทได้ร่วมลงนาม ทั้งนี้เพื่อรักษามาตรฐานและราคาเพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมอยู่กันได้ในการประกอบอาชีพที่ยั่งยืน

สำหรับโครงการ คือการควบคุมแม่พันธุ์สุกรที่มีอยู่ในกรอบประมาณ 1.2 ล้านตัว เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายรายเล็ก และรายขนาดกลาง ที่ได้เกิดผลกระทบที่ต่อเนื่องตลอดมา จากการที่ได้ลงทุนการเพิ่มขึ้นจนล้นตลาดและผลกระทบต่อราคา และในที่สุดต่อผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย รายเล็ก และรายขนาดกลางต้องยุติกิจการไปเป็นจำนวนมาก

นายปรีชา กล่าวว่า  โครงการควบคุมมาตรฐานการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร  ทางกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ และขั้นตอนต่อไปก็จะขอความร่วมมือไปยังกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในในฐานะผู้ดูแล

“โครงการควบคุมแม่พันธุ์สุกร 1.2 ล้านตัว จะสามารถผลิตสุกรได้ประมาณ 30 ล้านตัว / ปี ซึ่งจะบาลานซ์กับการบริโภคไม่ขาดตลาดและล้นตลาด”

นอกนั้นนอกจากโครงการควบคุมฯ แล้ว จะต้องมีมาตรการที่เข้มข้นต่อเนื่องในการควบคุมการนำเข้าหมูจากต่างประเทศ.

“เมื่อได้ดำเนินการโครงการผู้เลี้ยง และผู้ค้า และผู้บริโภคก็จะไปกันได้” นายปรีชา กล่าว.