ปีละครั้งขนมเดือนสิบ แม่ค้าชาวตรังเร่งทำขายรับเทศกาลคึกคัก


ชาวบ้านหนองเหรียง หมู่ที่ 2 ตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง กว่า 10 ครัวเรือน ทั้งที่มีบ้านอยู่ริมถนน และแม้บ้านไม่ได้อยู่ริมถนน แต่ได้ออกมาสร้างแผง เพื่อทำขนมและขายขนมเดือนสิบ ทั้งขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า และขนมดีซำ (ขนมรู) เนื่องจากใกล้จะถึงช่วงเทศกาลสารทเดือนสิบ เทศกาลทำบุญครั้งใหญ่ของพี่น้องชาวพุทธในพื้นที่ภาคใต้แล้ว ซึ่งขนมทั้งหมดดังกล่าวเป็นขนมที่จำเป็นจะต้องใช้ประกอบพิธี
ชาวบ้านหนองเหรียง จะยกกระทะ และอุปกรณ์ มาทำขนมกันที่แผงริมถนน เพราะเป็นอาชีพประจำที่ทำรายได้ให้กันทุกปี ตั้งแต่ก่อนถึงและตลอดเทศกาลเป็นระยะเวลานานนับเดือน จนถือเป็นแหล่งทำขนมเดือนสิบแหล่งใหญ่ในจังหวัดตรัง ภาพบรรยากาศจึงคึกคัก ทั้งคนที่แวะเวียนมารับขนม หรือมาซื้อขนม รวมทั้งชาวบ้านที่ต้องนั่งทำขนมกันทั้งวัน เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า โกยรายได้เข้าสู่ชุมชนแห่งนี้ปีละจำนวนมาก
สำหรับวิธีการทำขนมลา จะยังคงใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ด้วยการผสมแป้ง แล้วนำใส่ภาชนะที่ทำจากกะลามะพร้าว โดยเจาะเป็นรูด้านล่างหลายๆ รู จากนั้นเมื่อเอาแป้งหยอดใส่ลงไป แล้วนำไปเคาะในลักษณะวนไปวนมา ลงในกระทะที่มีน้ำมัน ใช้เวลาไม่นานก็สามารถยกขึ้น ก่อนนำไปวางบนถ้วยเล็กๆ และแต่งขอบให้สวยงาม ก็จะได้ลากรอบ (ลา-กรอบ) ที่สวยงาม ทิ้งไว้ให้เย็น ก็จะหยิบบรรจุลงเข่งเก็บไว้อย่างมิดชิด รอส่งลูกค้า
ส่วนวิธีการทำขนมพองนั้น จะใช้ข้าวเหนียวล้วน โดยแต่ละครัวเรือนก็จะทำแผ่นขนมพองเก็บเอาไว้ตั้งแต่ปลายปี เพราะต้องตากแดดให้แห้งและเก็บไว้อย่างดี ซึ่งมีทั้งแผ่นสีขาว และแผ่นสีอื่นๆ ซึ่งใช้สีผสมอาหารที่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพื่อเพิ่มสีสัน จากนั้นก็เอามาหย่อนลงในกระทะ ทอดทีละแผ่น ใช้เวลาไม่กี่วินาทีขนมก็จะพองลอยตัวขึ้นมา ก็ตักไปพักให้สะเด็ดน้ำมัน และวางให้เย็น จากนั้นก็เอาบรรจุลงในลัง เพื่อรอส่งขาย โดยเคล็ดลับคือ การทอดทีละแผ่น เพราะหากทอดพร้อมกันหลายๆ แผ่น ขนมพองจะแตกหัก เสียรูปทรง ได้แผ่นไม่สวย
ขณะที่วิธีการทำขนมรู เริ่มจากนำแป้งมาปั้น แล้วใส่ลงในกระทะ ทอดพอกรอบ ก็นำขึ้นมาพักไว้ และบรรจุในลังเก็บไว้รอส่งลูกค้าเช่นกัน ซึ่งจะเป็นออเดอร์ขนมเดือนสิบที่ถูกส่งไปขายต่อตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดตรัง โดยขนมพอง และขนมลา มีราคาเดียวกันคือ ขายปลีก แผ่นละ 10 บาท ขายส่ง แผ่นละ 7 บาท, ขนมบ้า และขนมรู (ขนมดีซำ) ขายราคาเท่ากันคือ ขายส่ง 100 ลูก 120 บาท แต่หากเป็นชุดรวมขนมทุกชนิด ชุดเล็ก 30 บาท ชุดใหญ่ 40 บาท นอกจากนั้น ขนมดีซำ (ขนมรู) และขนมบ้า ก็มีการขายปลีกหน้าร้านด้วย ราคากล่องละ 10 บาท
นางวรรณี ราชพลี อายุ 59 ปี ชาวบ้านรายหนึ่ง บอกว่า ตนเองทำขนมเดือนสิบขายทุกปี เช่นเดียวกับชาวบ้านรายอื่นๆ ในชุมชนไม่ต่ำกว่า 10 ครัวเรือน ส่วนตัวคาดว่าปีนี้จะขายดี จึงทำเตรียมไว้มากกว่าปีที่แล้ว เช่น ขนมพอง ทำเตรียมไว้ประมาณ 8,000 แผ่น ขนมลา ทำเตรียมไว้ประมาณ 5,000 แผ่น ส่วนราคาขายก็เท่ากับปีที่แล้ว ไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด โดยปีที่แล้วขายได้ประมาณ 40,000-50,000 บาท ปีนี้คาดว่าน่าจะขายได้มากกว่า
ส่วน นางสายพิน คงนคร อายุ 63 ปี ชาวบ้านอีกราย ก็บอกว่า ตนเองทำขนมเดือนสิบขายทุกปีเช่นกัน และปีนี้คาดว่าจะขายได้มากกว่าปีที่แล้ว หรือไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ส่วนลูกค้าก็จะมีทั้งขาประจำที่สั่งไว้ข้ามปี และขาจร
สำหรับขนมเดือนสิบ ซึ่งมีการทำแค่ปีละครั้งนั้น จะใช้ประกอบ 3 พิธีสำคัญคือ 1.ใช้ไหว้หรือบูชาบรรพบุรุษปู่ย่าตายายที่บ้าน หรือตั้งตายายที่บ้าน 2.ใช้ทำบุญเล็ก หรือรับตายาย ซึ่งตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 หรือวันที่ 8 กันยายน 2568 3.ใช้ทำบุญใหญ่ หรือส่งตายาย ซึ่งตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 หรือวันที่ 22 กันยายน 2568
ข่าว/ภาพ:คนิตา สีตอง