คนพังงานขานรับ "คนละครึ่ง"กระตุ้นเศรษฐกิจ-ฟื้นกำลังซื้อ

คนพังงานขานรับ "คนละครึ่ง"กระตุ้นเศรษฐกิจ-ฟื้นกำลังซื้อ





Image
ad1

ชาวพังงาขานรับ เห็นด้วยที่รัฐบาลชุดใหม่จะนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ ขอให้รีบดำเนินการโดยหวังการจับจ่ายซื้อของใช้จำเป็นทั่วถึงในชุมชน และเพิ่มกำลังซื้อมากขึ้น

หลังจากรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การบริหารของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะนำนโยบายโครงการคนละครึ่งรอบใหม่เริ่มทันทีวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจกระ ตุ้นการการใช้จ่ายของประชาชนในการจับจ่ายใช้สอยที่ปัจจุบันนับว่าซบเซาอย่างมาก รวมทั้งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายแก่พี่น้องประชา ชนและเพิ่มรายได้แก่ร้านค้าผู้ประ กอบการรายย่อยในชุมชนชาวบ้านในจังหวัดพังงาส่วนใหญ่รู้สึกเห็นด้วยกับโครงการนี้จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเร่งดำเนินการทันที

นางสมจิตร อินนาวา ที่อยู่ 31ม.1 ต.เหมาะ อ.กะปง จ.พังงา ในฐานะชาวบ้านเห็นด้วยกับโครงการนี้เพราะว่าจะมีการใช้จ่ายอย่างทั่วถึงและสามารถซื้อขายสินค้าในร้านค้าหมู่บ้านในความคิดของตนเองคิดว่าโครงการคนละครึ่งดีกว่านโยบายแจกเงินหมื่นที่มีคนได้บ้างไม่ได้บ้าง

ด้าน นายบรรพตจน์ ศรีช่วย 58 ปี  พ่อค้าน้ำอ้อยในตลาดนัดลานโล่ง ม.2 ต.ท่านา อ.กะปง จ.พังงา ซึ่งได้ขายมา13 ปี แล้ว กล่าวว่าเห็นด้วยกับโครงการคนละครึ่งแต่หากเป็นการแจกเงินคนละหมื่นตนเองเห็นว่าต้องใช้งบประมาณเยอะให้นำเงินไปทำรั้วชายแดนกัมพูชาจะดีกว่า เงินหมื่นได้แค่ผู้สูงอายุกับผู้พิการ สำหรับโครงการคนละครึ่งนั้นประชาชนได้ 50 % ก็ยังดี

ขณะที่ แม่ค้าขายผัก บอกว่าไม่สามารถเข้าโครงการนี้ได้เนื่อง จากระบบเงินหมุนเวียนไม่เพียงพอเนื่องจากต้องสั่งผักมาจำหน่ายวันต่อวัน จึงเห็นว่าหากเป็นการซื้อขายสินค้าหรือของแห้งนั้นจะดีกว่า

จึงเห็นได้ว่าโครงการคนละครึ่งเป็นมาตรการเพื่อการตุ้นเศรษฐกิจอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม รวดที่ประชาชนชั้นรากหญ้าขึ้นไปต่างให้ความเห็นด้วยอย่างยิ่งที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนใหม่ หากได้นำกลับมาใช้ใหม่จริงจะได้รับเสียงชื่นชมยินดีจากประชาชนอย่างมากเพราะจัดอยู่ในมาตรการ Quick Win รวดเร็วเห็นผลแน่นอน.

โดย...ศักดิ์สิทธิ์ ประทีป /พังงา  รายงาน