ก่อนออกเดินทาง มีแต่คนทักท้วงเป็นห่วงว่า.......”จะไปจริงๆ หรือ รอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางก่อนไหม”

แต่.........จองที่พักแล้ว จองรถแล้ว นัดช่างภาพแล้ว และ นัด ผอ.ททท. ตราด (ว่าที่ ร้อยตรี กรกฎ โอภาส ) ไว้แล้ว รวมทั้งเพื่อนที่เป็นทหารเรือ บอกว่า......มาได้ไม่มีอะไรเลย นอกจากความสวยของหาดเตยงาม ........แล้วจะอยู่ทำไมกรุงเทพฯ เดินทางจ้า

จากกรุงเทพฯ เราตรงสู่จันทบุรีแล้วไปหยุดที่....คลองภักดีรำไพ หนึ่งในโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ชาวจันทบุรีภาคภูมิใจ

ชาวคณะได้รับการต้อนรับจาก ผอ.โครงการชลประทานจันทบุรี (ผอ.วุฒิชัย นรสิงห์) มาอธิบายให้ฟังถึงที่มาของโครงการพระราชดำริแห่งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านั้น เมืองจันทบุรีมีน้ำท่วมสูง สร้างความเสียหายให้กับเขตเศรษฐกิจ และที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชน แต่เมื่อมีคลองภักดีรำไพ ปัญหาน้ำท่วมในตัวเมือง ก็ไม่มีให้เห็นอีก

เราล่ำลา ผอ. และ ตรงไปกราบศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ชาวจันทบุรีเคารพบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล และย้อนความหลังสมัยเคยเรียนประวัติศาสตร์ที่พระองค์ตรัสกับทหารในกองทัพว่า.....กินอาหารมื้อนี้แล้วทุบหม้อข้าว หม้อแกงทิ้งให้หมด เพราะพรุ่งนี้ เราจะเข้าไปกินในตัวเมืองจันฯ และเมื่อรุ่งสาง กองทัพของพระองค์ก็สามารถยึดเมืองจันทบุรีได้สำเร็จ เราและชาวคณะก้มหน้ากราบขอพรจากพระองค์ให้ปกปักษ์รักษาประเทศด้วยเถิด

จากนั้นไปเดินกินลมชมวิวที่ตลาดริมน้ำจันทบูรณ์ อาหารอร่อยทุกร้านเริ่มตั้งแต่ ก๋วยจั๊บคุณป้า น้ำมะปริ๊ดที่ปริ๊ดสมชื่อ ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันทร์ผัดปู ขนมโบราณ และอีกมากมาย ชนิดลืมอิ่ม ชาวคณะโบกมือลาจันทบุรี เพื่อตรงเข้าสู่จังหวัดตราด จังหวัดที่ได้ชื่อว่า....สุดแผ่นดินตะวันออก

วันที่เราและชาวคณะไปถึง สายการบินบางกอกแอร์เวย์ร่วมกับ ททท.สำนักงานตราด จังหวัดและผู้สนับสนุน ร่วมกันจัดงาน วิ่งมาราธอนขึ้น ดังนั้น นักท่องเที่ยวและผู้คนจึงคึกคักเป็นพิเศษ

โรงแรมตราดซิตี้ เป็นสถานที่พักที่ ททท.สำนักงานตราดแนะนำ โรงแรมประจำจังหวัดที่น่ารักและสะอาดตา ห้องพักสวย หลับสบาย ตื่นมาพร้อมความหิว อาหารเช้าที่นี่มีให้ท่านเลือกมากมาย ตั้งแต่อเมริกัน บุพเฟ่ต์ จนถึงข้าวต้มหมู ข้าวต้มไก่

ฝนตกต้อนรับตั้งแต่กลางดึกจนถึงเช้า แต่....นั่นไม่ใช่อุปสรรค ชาวคณะทุกคนพร้อมใจกันเดินทางไป หาดทรายดำ ในวันฝนพรำ ทะเลยังสวยถึงฟ้าจะมีฝน แต่เราทุกคนก็ยังประทับใจ

ช่วงบ่ายไปนั่งรถรางชมเมือง ตามนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่พยายามให้เมืองท่องเที่ยวเป็นเมืองโลว์ คาร์บอน (LOW CARBON)
ไกด์ท้องถิ่นเก่งและน่ารักมาก พาชาวคณะไปพิพิธภัณฑ์ตราด ที่นี่เราได้รับความรู้มากมาย จากนั้นไปวัด บุปผาราม วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา และไปจบที่ตลาดคนเดิน ของอร่อยเต็มสองข้างทาง เดินยังไม่ทันครบทุกร้าน ฝนก็กระหน่ำลงมาอีกรอบ วิ่งไปหัวเราะไป สนุกสนานมาก

ททท.สำนักงานตราด เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารมื้อค่ำที่ร้านชมปู อาหารหลากหลาย อร่อยมาก เจ้าของเป็นคุณหมอฟัน (ทันตแพทย์หญิง) ที่มีความสามารถหลายอย่าง และที่สำคัญคุยเก่ง เป็นกันเองกับทุกคน
รุ่งเช้า ชาวคณะโบกมือบ๊าย – บาย เมืองตราด เดินทางสู่ระยอง ด้วยถนนที่สวยที่สุด แล้วตรงเข้าสู่เมืองพัทยา เพราะเรามีนัดกับท่านนายกฯ เมืองพัทยา คุณปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์
นายกฯ เบียร์ พี่นายกฯ เบียร์ (ที่เด็กๆ เรียก) เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ เป็นนักพัฒนาที่มุ่งมั่นจะทำพัทยาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับทุกคน การเปลี่ยนแปลงของเมืองพัทยาในสมัย นายกฯ เบียร์ จึงเกิดขึ้นมากมาย เปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็นหลอด LED เพื่อความสว่างของชุมชน การติดตั้งกล้องวงจรปิดถึง 2,000 กว่าตัวทั่วเมือง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน สร้างหลังคาตรงท่าเรือแหลมบาลีฮาย เพื่อกันแดดและกันฝน สร้างท่าเรือ สำหรับให้คนที่ใช้วีลแชร์ขึ้น.......ลง ได้ มีรถกอล์ฟ รับ....ส่ง เด็ก สตรีมีครรภ์ และ คนชรา

งานอีเวนท์ใหญ่ๆ ของเมืองพัทยาเป็นงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นงานพลุ ที่จัดแต่ละครั้งจะมีผู้คนหลั่งไหลมาเป็นแสนคน งานวิ่งมาราธอน งานดนตรีฯ
ดังนั้นจึงพูดไม่ผิดว่า...เมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวสำหรับคุณและทุกคน
โรงแรมที่ชาวคณะไปพักชื่อ OZO เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ริมชายหาดพัทยาเหนือ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สระน้ำสวย ห้องพักเยี่ยม อาหารเช้าเยอะจนเลือกไม่ถูก อย่าลืมแวะไป
ก่อนกลับกรุงเทพฯ เราไปแวะตลาดหนองมน ซื้อของฝากไปฝากคนทางบ้าน ขนมจากร้อนๆ ข้าวหลามร้านแม่ไข่ทูลเกล้า ห้อยจ๊อลูกโตๆ สรุป........อร่อยทุกอย่าง

ยืนยันอีกครั้งว่า....สุดแผ่นดินตะวันออกไม่มีอะไรให้กังวล นอกจากเรื่องเดียว.......กังวลว่าคุณจะเก็บเกี่ยวความสุขและความประทับใจกลับมาไม่หมดนะสิ........
ขอขอบคุณ ททท.ภูมิภาค ภาคตะวันออก ททท.สำนักงานตราด เมืองพัทยา นายกเมือง พัทยา ( คุณปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์) และทีมงานทุกท่าน