สกพอ. ผนึก ม.ธรรมศาสตร์ เปิดผลการศึกษาขยายพื้นที่ EEC ปลุกพลังคนปราจีนบุรี ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


ปราจีนบุรี – สกพอ. ผนึก ม.ธรรมศาสตร์ เปิดผลการศึกษาขยายพื้นที่ EEC ปลุกพลังคนปราจีนบุรี ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างยั่งยืน มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านไม่เอาEEC
สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จับมือ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สกพอ. จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ต่อ (ร่าง) รายงานผลการศึกษา โครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธาน และ ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. ร่วมกล่าวเปิดการประชุม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมการประชุมฯ รวมกว่า 300 คน
เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการรับฟังความคิดเห็นต่อข้อห่วงใยถึงผลกระทบและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการขยายพื้นที่อีอีซี เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อม การจัดการน้ำ หรือผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ณ โรงแรมสยามดาษดา เขาใหญ่รีสอร์ท ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะหน่วยงานกลางที่ศึกษาถึงการขยายพื้นที่ อีอีซี ดังกล่าว ได้นำเสนอ ถึงผลการศึกษาความเหมาะสมของจังหวัดปราจีนบุรีในการเข้าสู่พื้นที่อีอีซี รวมทั้งได้เผยถึง รายงานสรุปข้อมูลผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์จุดเด่นและข้อจำกัดของพื้นที่ 7 อำเภอในจังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งแนวโน้มการใช้ทรัพยากรจากเข้าสู่อีอีซี พร้อมกันนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม ได้มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในมิติต่าง ๆ อย่างเปิดกว้าง โปร่งใส และเป็นกลาง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สะท้อนความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง
สำหรับการดำเนินการต่อไป สกพอ. จะได้สรุปรายงานผลการศึกษา พร้อมรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ นำผลการศึกษาฯ เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทราบ ทั้งนี้ หากเห็นชอบให้มีการขยายพื้นที่ฯ ดังกล่าว สกพอ จะจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (เพิ่มเติม) เพื่อเสนอ กพอ. และ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษา
โดย สกพอ. ขอให้ความมั่นใจแก่ประชาชนจังหวัดปราจีนบุรี ว่าจะดำเนินการโดยยึดผลประโยชน์ของพื้นที่และชุมชนเป็นหลัก และจะมีการรับฟังความคิดเห็นในทุกขั้นตอนต่อเนื่อง เพื่อให้การขยายพื้นที่อีอีซีครั้งนี้ เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสมกับสภาพและศักยภาพของพื้นที่สอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างโอกาสให้เยาวชน และคนในพื้นที่ ได้มีโอกาสทำงานที่ดีใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ และมีรายได้ที่มั่นคง ส่งเสริมให้เกิดการสร้างเกิดความเข้าใจและคลายความกังวลใจของประชาชน ตลอดจนหน่วยงานราชการในท้องที่จากหลากหลายกลุ่มองค์กรอย่างแท้จริง พร้อมเตรียมนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
อาทิข้อเสนอแนะเรื่องผลักดันการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่อย่างเท่าเทียมจากหอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้งข้อเสนอแนะจากอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี เรื่องการสร้างโอกาสพัฒนาจังหวัดฯ ในทุกมิติผ่านการสร้างตลาดแรงงานชั้นสูง ซึ่งถือเป็นการการสร้างงาน สร้างอาชีพกับนักศึกษาในท้องที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนจากกับดักรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูง ไปพิจารณาเพื่อดำเนินการให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคัดค้านไม่เอาEEC พบช่วงมีการนำเสนอ ถึงผลการศึกษาความเหมาะสมของจังหวัดปราจีนบุรีในการเข้าสู่พื้นที่อีอีซี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ –อส.ได้พบมีการแจกจ่ายเอกสารจากผู้ที่เข้าร่วมประชุม จึงได้ขอเข้าตรวจกระเป๋า ทางบุคคลดังกล่าวได้เทเอกสารลงพื้นให้ดูพร้อมมีการท้วงติงลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล
โดยทางฝ่ายไม่เอาEEC กล่าวแสดงทรรศนะโดยสรุปว่า EEC เป็นกฎหมายที่มีความล้มเหลวในการบังคับใช้หลายกรณี อาทิ ความหละหลวมในการบริหารจัดการมลพิษและกากสารเคมี การคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค การคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการอยู่อาศัยและทำกิน รวมถึงเรื่องกองทุนการช่วยเหลือเยียวยา ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงภายใต้กฎหมายดังกล่าว รัฐบาลจึงไม่ควรนำความล้มเหลวเหล่านั้นมาดำเนินการให้เกิดขึ้น .กฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ มีลักษณะของการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง
และเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างประชาชนกับนักลงทุน โดยมีการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายปกติที่มีอยู่แล้วร่วม 20 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน การจัดการทรัพยากรและพื้นที่อนุรักษ์ การประกอบอาชีพสงวน การเงิน แรงงาน ผังเมือง และอื่น ๆ ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษที่พลเมืองไทยไม่เคยได้รับ หรือไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย แต่กฎหมายดังกล่าวนั้นกลับเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนักลงทุน (ต่างชาติ) เกือบทุกมิติ
ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวสรุปว่า การมารับฟัง ความคิดเห็น ในการประชุมรับฟังความคิดเห็น ต่อ (ร่าง) รายงานผลการศึกษา โครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ว่า มาสำรวจจังหวัดปราจีนบุรีเหมาะที่จะเป็น eec หรือเปล่า ผลการศึกษาที่ธรรมศาสตร์มาดำเนินการ ว่าปราจีนบุรี มีความ พร้อมแค่ไหน เหมาะที่จะเป็น เศรษฐกิจพิเศษ มีอะไรบ้าง
เชิงสากล เอาเข้าไปประเมิน ว่าเศรษฐกิจ เชิงสังคมสิ่งแวดล้อม มีความพร้อมแค่ไหน เราก็ สรุปผลเปิดประชุมฟังความคิดเห็นใน 7 อำเภอของปราจีนบุรี ใช้พื้นที่ทำอะไรบ้าง ต้องเข้ามาร่วม การทำงาน ความเห็นคิดเห็นเป็นอย่างไร เวทีมีความเห็นเป็นอย่างไร ว่ามีผลทางบวกทางลบอย่างไรต้องช่วยกัน อย่างไร บ้าง
จากนั้นสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ม.ธรรมศาสตร์สรุปส่งมาที่สำนักงาน eec ครม. คณะกรรมการนโยบาย ขยายเขตเข้ามา ร่วมกันทำงานจะว่าอย่างไร ต้อง เตรียม ผังเมืองโซนการเกษตรอุตสาหกรรมสำหรับปัญหาโซนที่ซ่อม สร้าง ให้พัฒนาต่อไป รับฟังความเห็นได้ ครอบคลุม ขึ้นต้องเตรียมอะไรบ้าง สรุป ส่ง รอตั้ง มีความเหมาะสมแล้ว คณะกรรมการเห็นด้วยหรือไม่ต่อไป
โดย...มานิตย์ สนับบุญ – ข่าว / ณัฐนันท์ – ภาพ / ปราจีนบุรี###