"นริศ" ควักงบจัด "ชักกะเย่อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย" ผู้สมัครตบเท้า 87ทีม

นายนริส สิงห์วังชา นายกสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย ทุ่มงบส่วนตัวจัดการแข่งขันชักกะเย่อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2568 ในขณะที่กรรมการบริหารสมาคมฯท้วง กกท.ถึงงบสนับสนุนการจัดการแข่งขัน

นายนริส สิงห์วังชา นายกสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการแข่งขันชักกะเย่อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2568 ร่วมด้วยนายสุชาติ แจสุรภาพ อุปนายกสมาคมฯ , พ.ต.อ.อำนาจ อ่วมขันธ์ เลขาธิการฯ ตลอดจนกรรมการบริหารสมาคมฯ และผู้บริหารสถานศึกษาที่นำทีมเข้าร่วมการแข่งขัน โดยมีพันตำรวจเอกหญิงอรรถพร สังขะวรรณ ปฏิคมและกรรมการบริหารเป็นผู้กล่าวรายงาน ถึงการจัดการแข่งขันชักกะเย่อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 20 - 21 ก.ย.68 ที่ห้องไอซ์แลนด์ ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา มีทีมชักกะเย่อสมัครเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดถึง 87 ทีมจำนวนนักกีฬา 783 คนผู้ฝึกสอน 174 คนรวม 957 คน แบ่งการแข่งขันเป็น

   1.รุ่นซีเนียร์ชาย 8 คนน้ำหนักรวม 600 ก.ก.
   2.รุ่นซีเนียร์หญิง 8 คนน้ำหนักรวมไม่เกิน 500 ก.ก.
   3.รุ่นจูเนียร์ชายอายุต่ำกว่า 19 ปี 8 คนน้ำหนักรวมไม่เกิน 560 ก.ก.
   4.รุ่นจูเนียร์หญิงอายุต่ำกว่า 19 ปี 8 คนน้ำหนักรวมไม่เกิน 480 ก.ก.
   5.รุ่นจูเนียร์ชายอายุต่ำกว่า 16 ปี 8 คนน้ำหนักรวมไม่เกิน 500 ก.ก.
   6.รุ่นจูเนียร์หญิงอายุต่ำกว่า 16 ปี 8 คนน้ำหนักรวมไม่เกิน 440 ก.ก.

 จากนั้นนายนริส สิงห์วังชา นายกสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดการแข่งขัน และรับมอบป้ายสนับสนุนการแข่งขันจากบะหมี่สำเร็จรูปยำยำ และกาแฟอาราบัสก้า พร้อมกล่าวถึงการจัดการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2568 ว่า"ตนในฐานะนายกสมาคมฯ ทำหน้าที่ในการจัดการแข่งขันตามนโยบายของ กกท.ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ต้องทำเป็นประจำทุกปีกับการจัดการแข่งขัน เพื่อเปิดเวทีให้นักกีฬาชักกะเย่อจากทั่วประเทศได้มีเวทีแสดงฝีมือและความสามารถกัน แต่ก็คงต้องถามถึงงบประมาณสนับสนุนการแข่งขันจากทาง กกท.ว่าเหตุใดจึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จะมองว่าใกล้การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะเป็นงบประมาณคนละส่วน แต่อย่างไรตนเองและกรรมการบริหารทุกท่านก็ยินดีที่การจัดการแข่งขันสำเร็จตามวัตถุประสงค์ มีนักกีฬาเข้าร่วมมากที่สุด อีกทั้งกีฬาชักกะเย่อได้รับการบรรจุเป็นกีฬาสาธิตในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ปลายปีนี้ ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายการทำงานของสมาคมฯ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายเชิญชวนแฟนกีฬามาชมการแข่งขันชักกะเย่อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยในวันนี้อีกหนึ่งวัน

ทางด้านนายสุชาติ แจสุรภาพ อุปนายกสมาคมฯก็ให้สัมภาษณ์ไปในทิศทางเดียวกับนายนริส สิงห์วังชา ว่า"การจัดการแข่งขันกีฬาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย เป็นหน้าที่ของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยต่างๆ และการสนับสนุนงบประมาณการจัดการแข่งขันก็เป็นหน้าที่ของ กกท.ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อให้การทำงานของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยประสบความสำเร็จ"
     
ส่วน พ.ต.อ.อำนาจ อ่วมขันธ์ เลขาธิการสมาคมฯ กล่าวว่า"การที่ทีมชักกะเย่อเข้าร่วมแข่งขันถึง 87 ทีมนักกีฬา 783 คนถือเป็นความสำเร็จในด้านการจัดการแข่งขันและอาจได้นักกีฬาหน้าใหม่ๆเข้ามาเสริมทีมชาติไทย และปีหน้าเรามีรายการสำคัญรออยู่หลังจบภารกิจซีเกมส์ครั้งที่ 33 คือการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ไต้หวันประมาณเดือนมีนาคม 2569