ปคบ.ทลายโกดัง ยึดหมวกกันน็อค-ปลั๊กพ่วงเถื่อนนับแสนชิ้น ปลอมมาตรฐาน มอก.


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้บุกเข้าทลายโกดังลับในพื้นที่อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ยึดของกลางเป็นหมวกกันน็อคและปลั๊กพ่วงที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. จำนวนรวมกว่า 100,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยพบว่าสินค้าเหล่านี้มีการลักลอบนำเข้ามาจากกลุ่มทุนจีน และขายผ่านช่องทางออนไลน์ในราคาต่ำ
การสืบสวนและจับกุม
การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ บก.ปคบ. ได้รับนโยบายให้ปราบปรามการขายสินค้าออนไลน์ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและหมวกกันน็อคที่ต้องมีเครื่องหมาย มอก. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคบ. ได้สืบสวนจนพบว่ามีโกดังหลังโรงสีข้าวเก่าแห่งหนึ่งแอบลักลอบจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย จึงขอหมายค้นเพื่อเข้าตรวจสอบ
จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบหมวกกันน็อคกว่า 50,000 ใบ และปลั๊กพ่วงกว่า 50,000 ชิ้น ที่มีการปลอมแปลงเครื่องหมาย มอก. และสวมชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง เพื่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อว่าเป็นของแท้มีคุณภาพ จากการสืบสวนเบื้องต้นเชื่อว่าสินค้าทั้งหมดนี้ถูกนำเข้ามาจากกลุ่มทุนจีนและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีราคาตั้งแต่ 100 ถึง 699 บาทต่อชิ้น
ข้อสังเกตและวิธีตรวจสอบสินค้าที่ได้มาตรฐาน
เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ให้ข้อสังเกตเบื้องต้นในการเลือกซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐาน ดังนี้
-หมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐาน มอก. จะมีวัสดุแข็งแรงทนทาน ความหนาของเปลือกหมวกจะต้องไม่ต่ำกว่า 4 มิลลิเมตร และต้องมีฉลากเครื่องหมาย มอก., เลขที่ มอก. และ QR Code ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้
-ปลั๊กพ่วงที่ได้มาตรฐาน มอก. จะมีเต้ารับพร้อมตัวปิดช่องและขั้วสายดิน เพื่อป้องกันการแหย่รูปลั๊กไฟ นอกจากนี้ ต้องมีฉลากเครื่องหมาย มอก., เลขที่ มอก. และ QR Code ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้เช่นกัน
พล.ต.ต. พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.บก.ปคบ. เน้นย้ำว่าการกระทำความผิดนี้สร้างความเสียหายทั้งต่อเศรษฐกิจและความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อหาตัวเจ้าของผลิตภัณฑ์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก. หรือมีเบาะแสความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ. โทร 1135 หรือทางเพจเฟซบุ๊ก “ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค” และ “กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค” เพื่อร่วมกันป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมให้หมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน