จับแล้ว! 3 คนร้ายชาวลาว ปล้นแท็กซี่ กลางซอยรามคำแหง 44 สารภาพตกงาน-หาเงิน

จับแล้ว! 3 คนร้ายชาวลาว ปล้นแท็กซี่ กลางซอยรามคำแหง 44 สารภาพตกงาน-หาเงิน





Image
ad1

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (กก.สส.บก.น.4) และ สน.หัวหมาก สามารถติดตามจับกุมคนร้ายชาวลาว 3 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์นายบุญ ลัดดา โชเฟอร์รถแท็กซี่วัย 69 ปี ภายในซอยรามคำแหง 44 เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 12 ตุลาคม 2568 ได้แล้ว โดยผู้ก่อเหตุสารภาพสิ้น เพิ่งเข้ามาอยู่ในประเทศไทยได้เพียง 10 กว่าวัน ยังหางานทำไม่ได้ จึงร่วมกันก่อเหตุ

การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. ที่สั่งการให้เร่งรัดติดตามคนร้ายคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์สิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยมี พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รอง ผบก.น.4 อำนวยการสั่งการให้ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.บก.น.4 และทีมสืบสวนเร่งดำเนินการ

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 12 ตุลาคม 2568 คนร้ายไม่ทราบชื่อ 3 คน ได้โบกแท็กซี่สีเหลืองเขียว ทะเบียน 1 มก-4562 กทม. ที่มีนายบุญ ลัดดา อายุ 69 ปี เป็นผู้ขับขี่ จากสุขุมวิท 11 และให้ไปส่งในซอยรามคำแหง 44 จากนั้นได้ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยคนร้ายรูปร่างใหญ่สวมเสื้อสีเทาใช้แขนรัดคอ ส่วนอีกสองคนช่วยกันดึงเอาทรัพย์สินไป ซึ่งนายบุญฯ ได้พยายามต่อสู้จึงถูกคนร้ายใช้มือต่อยหลายครั้ง เมื่อได้เงินสดและโทรศัพท์มือถือไปแล้ว คนร้ายจึงพากันหลบหนี

หลังเกิดเหตุนายบุญฯ ได้ประคองรถกลับไปหาลูกสาวเพื่อพาไปหาหมอ ก่อนที่จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ในช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน

เนื่องจากเป็นการกระทำที่อุกอาจแม้เป็นในเวลากลางวันต่อมาในวันนี้ (13 ต.ค.68) เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.4 สามารถติดตามจับกุมคนร้ายทั้งสามคนได้ และให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุปล้นทรัพย์นายบุญฯ จริง พร้อมนำพาไปเอาโทรศัพท์มือถือที่ปล้นไปกลับคืนมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทั้งหมดเป็นคนสัญชาติลาวที่เพิ่งเข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณ 10 กว่าวันและไม่มีงานทำ จึงร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่และข้างเคียงทราบ หากมีผู้ใดพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำในลักษณะเดียวกันของคนร้ายกลุ่มนี้ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสายด่วน 191 เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ต้องหาต่อไป