191แกะรอยตามรวบแก๊งขนยานรก 10 ล้านเม็ดซุกโกดังย่านอยุธยา

ตำรวจ 191 โชว์ปราบยา 10 ล้านเม็ด รวบ 2 มดงานขนยานรกซุกกองข้าวโพดตบตาเจ้าหน้าที่ สุดท้ายไม่รอด ผู้การ 191 เอะใจ แกะรอยรวบคาโกดัง

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ กองกำกับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบ.ตร.พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ และ พ.อ.วิรุฬห์ ชัยสุวิรัตน์ หน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบก ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมน.ส.เมรินทร์ จูงใจ อายุ 33 ปี น.ส.ศิริรัตน์ หอมระรื่น อายุ 33 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 10 ล้านเม็ด,รถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน 3กต6899 กทม.,รถกะบะเชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน 8กณ1138 กทม. รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ขฉ 2918 พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจากชุดสืบสวน 191 และหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพบกได้ทำการ ขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบยาเสพติดเครือข่ายนนทบุรี โดยครั้งนั้นได้ทำการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 8 เม็ด ต่อมาได้ทำการสืบสวนทราบว่าเครือข่ายดังกล่าวจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเข้าพื้นที่ตอนใน โดยใช้พืชผลทางการเกษตรประเภทข้าวโพดตบตาเจ้าหน้าที่ เพื่อนำมาไว้ที่โกดังไม่มีเลขที่ ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อใช้พักและเก็บซุกซ่อนยาเสพติดก่อนนำไปจำหน่าย จึงได้นำกำลังตรวจค้น

โดยระหว่างเข้าตรวจค้นก็พบกลุ่มคนร้ายได้ขับรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ออกมาจากโกดังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับติดตามและแสดงตัวขอทำการตรวจค้น แต่รถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ไป ก่อนทิ้งรถไว้ ส่วนกำลังอีกส่วนหนึ่งได้เข้าไปตรวจค้นภายในโกดังที่ต้องสงสัยเป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด ก่อนทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ยึดยาได้รวม 10 ล้านบาท

สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่าได้ขับรถเพื่อมาที่โกดังเพื่อทำการขนย้ายยาเสพติดล็อตดังกล่าวไปกระจายให้กับเอเย่นต์รายย่อย โดยใช้พืชผลทางการเกษตรประเภทข้าวโพดตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ด้วยความที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะผู้การ 191 พื้นเพเป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงเห็นพิรุธว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่มีการปลูกข้าวโพดแต่เน้นปลูกข้าวเป็นหลัก โดยได้ค่าจ้างในการขนย้าย 1.5-5 หมื่นบาท จึงแจ้งข้อหา“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

รองผบ. ตร.กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทำการขยายผลผู้ร่วมขบวนการ และจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง หลังจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการส่วนที่เหลือได้แล้ว พร้อม ปฏิเสธ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ นโยบายปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขาดการประสานงาน ต่างคนต่างทำงาน เพื่อแย่งผลงาน เอาหน้านาย ทำให้มาตรการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีศักยภาพ ว่าขอยืนยัน ในองค์กรตำรวจไม่มีปัญหา ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานบูรณาการตั้งแต่ต้นทางกลางทางและปลายทางเป็นระบบ การจับกุมยาเสพติด จะถูกบันทึก เป็นบันทึกการจับกุมออนไลน์ พนักงานสอบสวน จะทำสำนวนส่ง ให้ตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือบช.ปส. ทุกเคส เพื่อขยายผล จับกุมขบวนการรายใหญ่ต่อไป

ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการทำงานปราบปรามยาเสพติดมีตัวชี้วัดชัดเจน ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันการแจ้งเหตุเรื่องยาเสพติดผ่านสายด่วน 191 มีปริมาณลดน้อยลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ผล และยืนยัน จากนี้ไป การปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน ผู้กระทำผิดพ่อค้ายาทั้งรายย่อยและ รายใหญ่ ยังมีเวลากลับตัวทันยาเสพติด และจะสกัดกั้นทุกวิถีทางเพราะยาเสพติดคือต้นทางที่นำไปสู่คดีอาชญากรรมอื่นๆ

