ที่ปรึกษารมว.กระทรวงต่างประเทศเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานปทอดถวายณ วัดมัลวัตตุมหาวิหาร ศรีลังกา

ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายณ วัดมัลวัตตุมหาวิหาร เมืองแคนดี สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 นายจักร บุญ-หลง ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทอดถวาย ณ วัดมัลวัตตุมหาวิหาร เมืองแคนดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา โดยมีพระมหาเถระศรีสิทธารถะ สุมังคละ มหานายกะเถระ เจ้าอาวาสวัดมัลวัตตุ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

พิธีดังกล่าวมีนาย Gamini Senarathne, Commissioner General, Department of Buddhist Affairs เป็นผู้แทนระดับสูงฝ่ายศรีลังกา เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำศรีลังกา และเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำศรีลังกา พร้อมด้วยนายไพฑูรย์ มหาพัณณาภรณ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ นายปาณิดล ปัจฉิมสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนชาวไทยและศรีลังกา เข้าร่วม

การเชิญผ้ากฐินพระราชทานครั้งนี้สามารถรวบรวมเงินบริจาค ซึ่งประกอบไปด้วยเงินบำรุงพระอารามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลจากกระทรวงการต่างประเทศและผู้มีจิตศรัทธาชาวไทยและชาวศรีลังกา รวมทั้งสิ้น 396,200 บาท 261,650 รูปีศรีลังกา และ 20 ดอลลาร์สหรัฐ

วัดมัลวัตตุมหาวิหารเป็นหนึ่งในพระอารามสำคัญที่สุดของพุทธศาสนาสยามนิกายในศรีลังกา ก่อตั้งขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 21 ในพื้นที่สวนหลวงของราชสำนักแคนดี ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และศิลปกรรมที่ทรงคุณค่า สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในศรีลังกา กล่าวคือ (1) อุโบสถซึ่งก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2296 ภายหลังการฟื้นฟูการอุปสมบท โดยถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของพระพุทธศาสนาในลังกาทวีปจนถึงปัจจุบัน

อุโบสถแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สามเณรและพระสงฆ์จากวัดต่าง ๆ กว่า 5,000 แห่งทั่วเกาะศรีลังกาจะเดินทางมารับการอุปสมบทและประกอบสังฆกรรม (2) โพยะเก อาคารประชุมสงฆ์สำหรับประกอบพิธีกรรมและการประชุมสำคัญ รวมถึงเจดีย์และวิหารแบบศิลปะแคนดีที่เก่าแก่

การเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายที่ศรีลังกาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 22 ซึ่งถือว่า เป็นการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับศรีลังกาที่มีมาเป็นเวลานาน โดยมีพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทเป็นสิ่งเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้ ศรีลังกาให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะที่ช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในศรีลังกา

อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินโครงการเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดพุทธศาสนาในต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2538 เป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน โดยเน้นวัดพุทธศาสนาที่เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในท้องถิ่น โดยขยายจากประเทศเพื่อนบ้าน ไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน ภูมิภาคเอเชียใต้

ตลอดจนภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่มีประชาชนนับถือพุทธศาสนาด้วย โดยในปี 2568 ได้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย จำนวน 8 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย เมียนมา มาเลเซีย ภูฏาน ศรีลังกา ลาว เวียดนาม และจีน

โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานด้านการทูตวัฒนธรรม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับประชาชนสู่ประชาชน

