สืบนครบาล 5 รวบหนุ่มหัวไส ผลิตแบงก์ปลอม ใช้เปย์สาวเอ็นฯ

สืบนครบาล 5 รวบหนุ่มหัวไส ผลิตแบงก์ปลอม ใช้เปย์สาวเอ็นฯ





Image
ad1

ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ,พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง รองผบช.น. ,พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 , พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทรผกก.สส.บก.น.5, พ.ต.ท.อติชาต แย้มผกา, พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว, พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์, รองผกก.สส.บก.น.5, พ.ต.ท.สง่า สุวรรณเพชร สว.กก.สส.บก.น.5, ร.ต.อ.ฉัตรพล หวังสู้ศึก , ร.ต.ท.พีระชาติ พวงศรี , ร.ต.ท.นคร ศรีเดือน,ร.ต.ท.ลงกรณ์ พิมพ์พงษ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.5, ด.ต.มงคล สิทธิขจรสกุล , ด.ต.วิศรุต ประจันตะเสน , ส.ต.อ.เอกลักษณ์ มะลัยสิทธิ์, ส.ต.อ.ธวัชชัย คำมานะ ผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.5 พร้อมกำลังได้ร่วมกันจับกุม นายกัปกัลป์หรือโซ อายุ 32 ปี

โดยกล่าวหาว่าว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย , มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมและธนบัตรต่างประเทศปลอม อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมฯ” 

พร้อมด้วยของกลาง  ลำดับที่ 1 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง ชั่งเฉพาะยาเสพติดน้ำหนัก 1.53 กรัม และชั่งถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิดน้ำหนัก 0.42 กรัม น้ำหนักรวมถุง 1.95 กรัม (พบอยู่บนชั้นวางของในห้องน้ำ)

ลำดับที่ 2 ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด จำนวน 1 ถุง ชั่งเฉพาะยาเสพติดน้ำหนัก 0.66 กรัม และชั่งถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิดน้ำหนัก 0.42 กรัม น้ำหนักรวมถุง 1.08 กรัม (พบอยู่บนชั้นวางของในห้องน้ำ)

ลำดับที่ 3 ธนบัตรไทยปลอม ฉบับละ 1000 บาท จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 3ก4029107
ลำดับที่ 4 ธนบัตรไทยปลอม ฉบับละ 1000 บาท จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 6ก8290504
ลำดับที่ 5 ธนบัตรไทยปลอม ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข 3ก1408051
ลำดับที่ 6 ธนบัตรต่างประเทศปลอม ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 2 ฉบับ หมายเลข AX34117842254
ลำดับที่ 7 ธนบัตรต่างประเทศปลอม ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 2 ฉบับ หมายเลข AD11533784038 
ลำดับที่ 8 ธนบัตรต่างประเทศปลอม ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ หมายเลข AE26783368291
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ก่อนการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก น.ส.อริญรดา สงวนนามสกุล ว่าตนเองได้รับการว่าจ้างให้ไปเอ็นเตอร์เทน จากนายกัปกัลป์หรือโซ(ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง เมื่อเสร็จจากการว่าจ้างแล้ว นายกัปกัลป์ฯ จึงได้จ่ายเงินเป็นธนบัตรเป็นแบงค์ยูโร ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 3 ฉบับ รวมเป็นเงิน 300 ยูโร

จากนั้น น.ส.อริญรดาฯ ได้นำเงินไปแลกเป็นเงินไทย จึงทราบว่าเป็นธนบัตรยูโรปลอม จึงได้แจ้ง ด.ต.มงคล สิทธิขจรสกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ กก.สส.บก.น.5 ทราบ และได้แจ้งว่า นายกัปกัลป์ฯ มียาเสพติดอยู่ภายในห้องดังกล่าว ต่อมา ด.ต.มงคล สิทธิขจรสกุล ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงได้ประสานเจ้าหน้าที่นิติบุคคล คอนโด ให้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปตรวจสอบห้องของ นายกัปกัลป์ฯ เมื่อไปถึงห้องเลขที่ 967 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เคาะประตูห้อง พบนายกัปกัลป์ฯ เปิดประตูออกมาและแสดงตนว่าเป็นเจ้าของห้อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและได้แจ้งวัตถุประสงค์ ในการตรวจสอบพร้อมได้แสดงบัตรประจำตัว ปปส. ของ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 ให้กับ นายกัปกัลป์ฯ จนเป็นที่พอใจและยินยอมให้เข้าตรวจค้น ก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายกัปกัลป์ฯ ทราบแล้วและ นายกัปกัลป์ฯ เป็นผู้นำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) ลักษณะเป็นก้อนเกล็ดสีขาวอยู่ในถุง ชนิดกดปิดดึงเปิดแบบใส จำนวน 2 ถุง พบอยู่บนชั้นวางของในห้องน้ำ นายกัปกัลป์ฯ รับว่ายาไอซ์เป็นของตนเอง และรับว่าตนเสพยาไอซ์จริง 

สอบถาม นายกัปกัลป์ฯ ได้ซื้อยาไอซ์ในราคากรัมละ 1,800 บาท จำนวน 2 ถุง มาจากชายต่างชาติในสถานบันเทิงย่านอาซีเอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นตัว นายกัปกัลป์ฯ พบธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และพบเงินต่างประเทศสกุลยูโร ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 5 ฉบับ พบอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าซ้ายตัวที่ นายกัปกัลป์ฯ สวมใส่อยู่ โดยนายกัปกัลป์ฯ รับว่าทั้งหมดเป็นธนบัตรปลอมและตัวเองทราบมาก่อนแล้วว่าเป็นธนบัตรปลอม ซึ่งได้มาจากชายต่างชาติในย่านอาซีเอและตัวเองได้ใช้เงินยูโร เป็นเงินค่าจ้างให้กับหญิงที่ตัวเองว่าจ้างมาเอ็นเตอร์เทนไปแล้ว โดยใช้ธนบัตรปลอมเป็นจำนวนเงิน 300 ยูโร

เจ้าหน้าตำรวจจึงได้ยึดของกลางทั้งหมดและได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าต้องถูกจับกุมในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย , มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมและธนบัตรต่างประเทศปลอม อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมฯ” จากนั้นนำตัวมาที่ กก.สส.บก.น.5 นายกัปกัลป์ฯ สมัครใจตรวจปัสสาวะเบื้องต้น จากการตรวจยาเสพติด ด้วยชุดตรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ONCB 051 MARQUIS REAGENT ผลการตรวจพบเป็นบวก พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว นายกัปกัลป์ฯ ส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ผลการตรวจพบเป็นบวก พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการตรวจนับและบันทึกจับกุม ที่ กก.สส.บก.น.5 เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามนายโซ รับสารภาพว่า ตอนเคยไปดวลเหล้ากับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอ โดยกลุ่มชาวจีนได้ทำตัวอวดรวย โดยการใช้ธนบัตรต่างประเทศปลอมพันแก้วเหล้า เมื่อใครดื่มก็จะได้เงินจำนวนนั้นไปตนก็ได้ไปดื่ม เพื่อเอาเงินดังกล่าว ที่ชาวจีนแจก แต่มาทราบภายหลังว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม จากนั้นตนได้เก็บธนบัตรปลอมนี้ไว้และได้นำมาเป็นตัวอย่าง ในการปลอมธนบัตร

โดยเริ่มจากการเสิร์ชข้อมูลใน แชทจีพีที ว่าธนบัตรมีกระดาษอะไรที่ใกล้เคียงกับธนบัตรของจริงจึงไปพบว่าเป็นกระดาษฝ้ายที่มีลักษณะใกล้เคียง ตนจึงได้สั่งกระดาษฝ้ายมาและทำการลองปริ้นที่ตู้ถ่ายเอกสารรุ่นเก่าเป็นแบบหยอดเหรียญ เพราะเนื่องจากว่าเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นใหม่ไม่สามารถปริ้นธนบัตรได้ แต่เมื่อทำสำเร็จธนบัตรก็ไม่เหมือน จึงใช้วิธีการพับแบงค์ในการจ่ายเงินให้เด็กเอนเตอร์เทน