คุก 6 เดือน “เน วัดดาว” โพสต์คอนเทนต์แปะลิงก์เว็บพนันไม่รอลงอาญา

คุก 6 เดือน “เน วัดดาว” โพสต์คอนเทนต์แปะลิงก์เว็บพนันไม่รอลงอาญา





Image
ad1

ตำรวจสอท.1รวบอินฟลูดัง “เน วัดดาว” โพสต์คอนเทนต์แปะลิงก์เว็บพนัน เจ้าตัวเผย เคยฟันรายได้สูงสุดถึงหลักล้าน สุดท้ายไม่รอด ศาลสั่งจําคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา

คดีนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ สอท.1 ได้ตรวจพบการโพสต์คอนเทนต์โฆษณาชักชวนให้เล่นการพนันผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจเร่งรัดดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิดรายดังกล่าวอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นบัญชีเฟสบุ๊คที่มีผู้ติดตามเป็นจํานวนมาก โดยเกรงว่าจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชน

จากการพิสูจน์ทราบพบว่าผู้โพสต์คือ นายมครินทร์ฯ หรือ “เน วัดดาว” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดําเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 68 สามารถติดตามตัวผู้ต้องหามาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ผู้ใดช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน” ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเองได้กระทําความผิดตามที่เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ทําการสืบสวนพบจริง

โดยทําต่อเนื่องมาแล้วหลายปี ซึ่งผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้คิดคอนเทนต์รวมถึงเนื้อหาในการโฆษณาเว็บพนันแล้วติดต่อให้ตนเองเป็นผู้โพสต์ในบัญชีเฟสบุ๊คของตนเองเพื่อแลกกับค่าจ้างต่อครั้ง ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน ตนเคยได้รับ ค่าจ้างโฆษณาเว็บพนันต่างๆ ยอดเงินรวมสูงสุดถึงหลักล้านบาท จึงได้นําตัวส่งฟ้องศาลแขวงดอนเมือง ความคืบหน้าล่าสุด ศาลได้มีคําพิพากษาคดีดําที่ 1339/2568, คดีแดงที่ 1356/2568ลงวันที่11 พ.ย.68ให้ลงโทษจําคุก6 เดือน ไม่รอลงอาญาจึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังอินฟลูเอ็นเซอร์ ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลผู้มีบทบาทชื่อเสียง ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ให้พึงระมัดระวังในการกระทําความผิดตามกฎหมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการ “แปะลิ้งก์โฆษณาเว็บพนัน” โดย สอท. จะได้มีการกวดขันในการตรวจสอบและปราบปรามอย่างเข้มงวดเพื่อปิดช่องทางมิให้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลเพื่อสอดคล้องกับวาระแห่งชาติ ตามนโยบายของรัฐบาลและสํานักงานตํารวจแห่งชาติต่อไป

กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตํารวจไซเบอร์) จะยกระดับในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและบังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นตั้งใจของเจ้าหน้าที่ตํารวจไซเบอร์ทุกนาย ที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่าง

เต็มกําลังความสามารถ เพื่อปราบปรามและสกัดกั้นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือกลุ่มแก๊งหลอกลวงออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ (แสกมเมอร์) รวมทั้งเครือข่ายการพนันออนไลน์ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในขณะนี้