งามไส้!จับเจ้าหน้าที่คาสนง.สรรพากรตบทรัพย์บริษัทเลี่ยงเก็บภาษีเข้ารัฐ

งามไส้!จับเจ้าหน้าที่คาสนง.สรรพากรตบทรัพย์บริษัทเลี่ยงเก็บภาษีเข้ารัฐ





Image
ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก , พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. , พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปปป. ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ,นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ, นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผอ.กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่

ร่วมกันสืบสวนจับกุม นายชิตพลฯ อายุ 33 ปี ตำแหน่ง นักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ สังกัดสำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 8 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ 104/2568 ลงวันที่ 25 พ.ย.68
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”

สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา  สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซ.วัดลาดปลาเค้า 78 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
 
พฤติการณ์  สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2568 บริษัทของผู้กล่าวหาซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ บก.ปปป. กรณีถูก นายชิตพลฯ นักตรวจสอบภาษีปฏิบัติการ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้าตรวจสอบภาษีประจำปี และเรียกเก็บค่าภาษีของปี 2566-2568 กับทาง บริษัทฯ โดยมีการคำนวณภาษี ที่ บริษัทฯ ต้องจ่ายให้แก่รัฐจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย ค่าธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) กรณีให้บริษัทกู้เงินลงทุน ต้องมีการคิดดอกเบี้ยเงินได้ในอัตราร้อย 7 เปอร์เซ็นต่อปี รวมเป็นเงิน จำนวน 93,320.92 บาท , ค่าภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) จำนวน 288,220.50 บาท และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) บวกกับภาษีเงินได้นิติบุคคลอีกส่วนหนึ่งจำนวน 5,269,921.24 บาท รวมค่าภาษีที่บริษัทฯ จะต้องจ่ายให้กับ สำนักงานสรรพากร จำนวนทั้งสิ้น 5,651,462.65 บาท (ห้าล้านหกแสนห้าหมื่นหนึ่งพันสี่ร้อยหกสิบสองจุดหกห้าบาท)

แต่ นายชิตพลฯ ได้เสนอกับทาง บริษัทฯ ว่าหากไม่ต้องการจ่ายเงินยอดค่าภาษีที่ บริษัทฯ ค้างชำระดังกล่าว ก็ให้หาเงินมาจ่ายเงินกับตน จำนวน 100,000 บาท แล้วจะยุติค่าเสียภาษีประจำปีให้ ซึ่ง บริษัทฯ ผู้ขอความเป็นธรรมได้ขอต่อรองจน นายชิตพลฯ ยอมลดจำนวนเงินที่เรียกรับสินบนเหลือ จำนวน 50,000 บาท โดยทางบริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินบางส่วนไปแล้ว จำนวน 40,000 บาท คงเหลือค้างจ่ายเงินสินบนอยู่จำนวน 10,000 บาท และต่อมา    ผู้กล่าวหาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย จนกระทั่งวันนี้ (27 พ.ย.68) บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. เข้าจับกุมผู้ต้องหาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา