กวาดยกแก๊งสแกมเมอร์อ้าง "โดนัลด์ ทรัมป์"ตุ๋นลงทุนเสนอผลตอบแทน20 เท่าเหยื่อสูญกว่า 13 ล้านบาท

กวาดยกแก๊งสแกมเมอร์อ้าง "โดนัลด์ ทรัมป์"ตุ๋นลงทุนเสนอผลตอบแทน20 เท่าเหยื่อสูญกว่า 13 ล้านบาท





Image
ad1

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ปฏิบัติการเข้าจับกุมผู้ต้องหา 6 ราย ที่ร่วมกันก่อเหตุหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนในโครงการที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับ "กองทุนน้ำมันประเทศไนจีเรีย" โดยใช้เอกสารปลอมที่มีลายเซ็นของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความน่าเชื่อถือ เสนอผลตอบแทนสูงถึง 20 เท่า ทำให้มีผู้เสียหายกว่า 15 ราย สูญเงินรวมกว่า 13 ล้านบาท

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยชุดปฏิบัติการ กก.4 บก.ปอศ. สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงได้ 6 ราย ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ขอนแก่น, อำนาจเจริญ, อุบลราชธานี, ปทุมธานี และนนทบุรี

ประกอบด้วย 1.นายอธิณัฏฐ์ฯ (ตัวการหลัก อ้างเป็นเจ้าของกองทุนน้ำมัน) 2.นางสาวณันนภัชสรณ์ฯ หรือมาดามเมตตา (ร่วมอ้างเป็นเจ้าของกองทุน) 3.นางเข็มทองฯ (ดูแลการเงิน/เจ้าของบัญชีรับโอน) 4.นางสาวปรานิศาฯ (หัวหน้ากลุ่มไลน์ลงทุน) 5.นายถาวรฯ (หัวหน้ากลุ่มไลน์ลงทุน) 6.นางอนุภาฯ (พิธีกรดำเนินรายการชักชวนระดมทุน)ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ"

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพยานหลักฐานสำคัญ 5 รายการ รวม โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 3 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 22 เล่ม และที่สำคัญที่สุดคือ เอกสารปลดอายัดเงินมูลค่า 783,800,000 USD ของสหรัฐอเมริกา ที่ปรากฏลายเซ็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จำนวน 1 ฉบับ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

พฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพคือ การตระเวนจัดงานชักชวนระดมทุนตามโรงแรมในต่างจังหวัด โดยอ้างตนว่าเป็นนักธุรกิจใหญ่ เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมันประเทศไนจีเรีย มีแผนนำเงินเข้าไทยและต้องระดมทุนเพื่อดำเนินโครงการให้สำเร็จ 
-สร้างความน่าเชื่อถือ นำเอกสารปลอม เช่น หนังสือรับรองการปลดอายัดเงินจากสหรัฐฯ ที่มีลายเซ็นโดนัลด์ ทรัมป์, หนังสือรับรองความเป็นเจ้าของทองคำทั่วโลกที่มีลายน้ำพิเศษ และเอกสารยอดเงิน 9 แสนล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคาร HSBC ประเทศจีน มาแสดง

-เสนอผลตอบแทน ชักชวนให้ลงทุน โดยเสนอผลตอบแทนสูงผิดปกติ ถึง 20 เท่า ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน 

-เรียกเก็บค่าธรรมเนียม เมื่อถึงกำหนดจ่ายผลตอบแทน ผู้ต้องหาจะบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุขัดข้อง โดยเรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้เสียหายเป็นค่าภาษี, ค่าธรรมเนียม, และค่าทนายสากล ทำให้เหยื่อบางรายหมดเนื้อหมดตัว ต้องกู้เงินมาลงทุนต่อ

ต่อมาผู้เสียหายได้นำเอกสารไปตรวจสอบที่สถานทูตไนจีเรีย พบว่าเป็น เอกสารปลอมทั้งหมด จึงได้เข้าแจ้งความต่อ กก.4 บก.ปอศ.

จากการสืบสวนเส้นทางการเงิน ตำรวจพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องถึง 22 บัญชี และมีเงินหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท โดยเงินที่ได้รับจากผู้เสียหายจะถูกโอนต่อเป็นทอดๆ และปลายทางของเงินส่วนใหญ่ถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุนกับบริษัทหรือกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นอัตราที่ผิดปกติและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมิจฉาชีพมักใช้กลโกงต่างๆ เช่น การอ้างชื่อกองทุนต่างประเทศ หน่วยงานรัฐ หรือองค์กรสากลเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ