“มูลนิธิปวีณา หงสกุล" ร่วมทหาร กกล.นเรศวร –ตำรวจ สภ.พบพระ ช่วยเหลือ 2 สาวไทย พ้นขุมนรก

“มูลนิธิปวีณา หงสกุล" ร่วมทหาร กกล.นเรศวร –ตำรวจ สภ.พบพระ ช่วยเหลือ 2 สาวไทย พ้นขุมนรก หลังถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองเมียวดี

นางปวีณา หงสกุล ประธาน “มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี" และคณะ ฯ เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรพบพระ จังหวัดตาก หลังจากได้มีการประสานความร่วมมือ จาก พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ,พ.ต.อ.อนุสรณ์ ดังก้อง ผกก.สภ.พบพระ และ ร.อ.วีรพล ขนิษดา ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 423 ,น.ส.ณัฏฐธนัน นพธิติกาญจน์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)จังหวัดตาก ในการช่วยเหลือ จนสามารถรับตัว 2 สาวไทย ให้กลับมาได้ปลอดภัย จากการที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองเมียวดี สหภาพเมียนมา
โดยหญิงสาวไม่ยอมทำพยายามหลบหนี นายจ้างคนจีนจับได้ยึดโทรศัพท์มือถือ เอาตัวไปกักขังยึดโทรศัพท์ ซ้อมทำร้ายใช้ไม้กระบองตี ใช้ไฟฟ้าช็อตตามตัวและลำคอสะบักสะบอมปางตาย จนต้องแสร้งทำเป็นยอมขายบริการให้นายจ้างคนจีนตายใจ หลังได้ใช้โทรศัพท์มือถืออีกครั้งจึงแอบแจ้งมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ "ปวีณา" และได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ ดังกล่าว ซึ่งจากการที่ได้มีการสอบสวนเพื่อคัดแยกเหยื่อ พบหญิงสาวทั้ง 2 คนเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ทำให้ มูลนิธิปวีณาฯ รับเข้าอยู่ในความดูแล เพื่อสอบขยาผลเอาผิดขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้ต่อไป.

โดยก่อนหน้านี้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวภาคเหนือ ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ถูกคนที่รู้จักทางเฟซบุ๊กชื่อ "บีบี" เป็นผู้หญิงชักชวนไปทำงานเอนเตอร์เทนดูแลลูกค้าในสถานบันเทิง KTV ที่เมืองเมียวดี สหภาพเมียนมา โดยบอกว่าจะมีรายได้ดี เดือนละ 50,000 –70,000 บาท จึงหลงเชื่อเดินทางไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 โดยนั่งรถทัวร์จาก บ้านเกิด ไปที่ขนส่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมีคนมารับและพาข้ามช่องทางธรรมชาตินั่งเรือข้ามแม่น้ำเมยไปฝั่งเมืองเมียวดี จากนั้นจะมีรถทหารเมียนม่า มารับนั่งรถเดินทางต่อ เมื่อไปถึงที่ร้านหงส์หลง ท่าพาลูเล 2 ซึ่งเป็นตึกแถวลักษณะแบ่งเป็นห้องๆ มีหญิงสาวอยู่จำนวนมาก ตนได้พบกับ "บีบี" หญิงสาวที่ติดต่อให้มาทำงาน และได้คุยกับนายจ้างที่เป็นคนจีน
จากนั้น “บีบี” ก็ได้หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ที่เดินทางไปถึง นายจ้างคนจีนบังคับให้ค้าประเวณีและบอกว่าตนเองติดหนี้ทางร้าน ตนไม่อยากทำก็ถูกข่มขู่จะทำร้ายจึงต้องยอมทำตาม กระทั่งวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ตนพยายามหาทางที่จะหนีจึงแอบถ่ายรูปร้านเพื่อจะส่งพิกัดไปขอความช่วยเหลือ แต่ทางร้านมาตรวจเจอรูปในโทรศัพท์มือถือของตนก่อนจึงลากตนเอาตัวไปกักขังในห้อง ยึดโทรศัพท์ มีชายคนจีน 5 คนคุมตัว และ 1 ใน 5 คนซ้อมทำร้ายใช้ไม้กระบองตี ใช้ไฟฟ้าช็อตตามตัวและลำคอสะบักสะบอมปางตาย จนถึงขนาดนั้นทางร้านก็ยังบังคับให้ตนรับลูกค้าไม่หยุดหย่อนโดยบอกว่า "ต้องทำงานชดใช้ค่าปรับที่คิดจะหนี" ตนเหมือนตกนรกทั้งเป็นแต่ต้องแสร้งทำเป็นยอมขายบริการให้นายจ้างคนจีนตายใจจนได้โทรศัพท์กลับมาใช้ในวันที่ 3 ธันวาคม 2568 จึงได้แอบแจ้งเรื่องมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอความช่วยเหลือ

ขณะเดียวกัน น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาวภาคอีสาน ซึ่งถูกบังคับค้าประเวณีที่ร้านเดียวกับน.ส.เอ ก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ ด้วยเช่นกัน เนื่องจากเห็นน.ส.เอ ถูกซ้อมทำร้ายร่างกายสุดแสนจะทรมานจึงเกรงว่าวันหนึ่งตนเองก็จะไม่รอด
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับน.ส.เอ และได้เห็นภาพถ่ายอาการบาดเจ็บจากการถูกซ้อมทำร้ายของน.ส.เอ ที่สะบักสะบอมและได้ทราบพิกัดที่อยู่ของร้าน จึงได้ประสาน พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร เข้าให้การช่วยเหลือทันที

ต่อมากลางดึกวันที่ 6 ธันวาคม2568. เวลาประมาณตี 1 ต่อเนื่องวันที่ 7 ธันวาคม 2568 .พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร โทรฯ รายงานนางปวีณา ว่าขณะนี้ได้มอบหมายให้ ร.อ.วีรพล ขนิษดา ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 423 ไปรับตัว 2 สาวข้ามแม่น้ำเมยกลับมาฝั่งไทย นางปวีณา จึงประสาน พ.ต.อ.อนุสรณ์ ดังก้อง ผกก.สภ.พบพระ ฝาก 2 สาวอยู่ในความดูแลของตำรวจ และประสาน นางสาวณัฏฐธนัน นพธิติกาญจน์ พมจ.ตาก ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองค้ามนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เดินทางไปที่ สภ.พบพระ เพื่อร่วมสอบคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ ดังกล่าว

