กว่างซีเก็บ ‘พริกจางซู่กั่ง’ ผลผลิตพุ่ง หนุนชุมชนสร้างรายได้มั่นคง
ฐานเพาะปลูกพริกของกลุ่มสหกรณ์ซานไถ (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
เมื่อเร็วๆ นี้ ฐานเพาะปลูกพริกของกลุ่มสหกรณ์ซานไถ หมู่บ้านจู๋ซาน ตำบลชวนซาน เมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน กำลังเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวเต็มที่ พริกพันธุ์จางซู่กั่งสีสดสวย กลิ่นเผ็ดหอมอบอวลทั่วโรงเรือน ขณะที่ชาวบ้านเร่งเก็บผลผลิตกันอย่างคึกคัก
ชาวบ้านกำลังเก็บเกี่ยวพริก (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
พริกจางซู่กั่ง มีชื่อเสียงด้านรสเผ็ดร้อน หวานปลายและกรอบสด ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด ชาวบ้านใช้มือเก็บพริกอย่างชำนาญ ก่อนนำไปคัดแยกตามขนาดและส่งเข้าห้องแช่เย็นรอขนส่งช่วงกลางคืน เพื่อกระจายไปยังตลาดใหญ่ในกวางตุ้ง เซี่ยงไฮ้ อู่ฮั่น และฉางซา
ชาวบ้านกำลังเก็บเกี่ยวพริก (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
นายโจว หย่งเฉวียน เลขาธิการพรรคประจำหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ฐานปลูกพริกมีพื้นที่ราว 100 หมู่ แต่ละโรงเรือนให้ผลผลิตมากกว่า 100 กก.ต่อวัน คาดว่าผลผลิตเฉลี่ยต่อหมู่อยู่ที่ 6–7.5 ตัน สร้างมูลค่ารวมประมาณ 4 ล้านหยวน ฐานเพาะปลูกใช้ระบบเพาะปลูกปีละสองฤดูกาล แต่ละฤดูกาลสามารถเก็บเกี่ยวได้นานประมาณสามเดือน ขณะนี้เป็นช่วงให้ผลผลิตสูงสุด และปริมาณผลผลิตยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พริกสดที่เก็บเกี่ยวจากสวน (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
อุตสาหกรรมพริกยังช่วยสร้างงานให้ชาวบ้าน ชาวบ้านรายหนึ่งเล่าว่า “การเก็บพริกและคัดแยกในฐานเพาะปลูกคิดค่าจ้างตามน้ำหนัก ปัจจุบันเก็บพริกจ่าย 2.4 หยวนต่อกิโลกรัม วันหนึ่งเก็บได้กว่า 40 กิโลกรัม ช่วงบ่ายคัดแยกยังทำเงินเพิ่มได้อีกหลายสิบหยวน ทำให้รายได้ต่อวันมากกว่า 100 หยวน”
สถิติระบุว่า ในขั้นตอนเพาะปลูก ใส่ปุ๋ย และเก็บเกี่ยว ช่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่มากกว่า 800 คนมีงานใกล้บ้าน ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
พริกที่รอการเก็บเกี่ยว (พีเพิลส์ เดลี่ ออนไลน์)
ปัจจุบัน นอกจากโรงเรือน 38 หลังของสหกรณ์ซานไถแล้ว ยังมีโครงการก่อสร้างโรงเรือนปลูกผักรวม 2.4 หมื่นตารางเมตร แบ่งเป็นเฟสแรก 30 โรงเรือน เฟสสอง 20 โรงเรือน เพิ่มขนาดอุตสาหกรรมพริก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตำบลชวนซานได้ขยายพื้นที่ปลูกพริก พัฒนาระบบเก็บรักษาและขนส่ง ทำให้เกิดห่วงโซ่อุตสาหกรรมครบวงจร ตั้งแต่การวิจัย การเพาะต้นกล้า ไปจนถึงการจำหน่าย ก่อเกิดเส้นทางสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน
ที่มา People’s Daily Online
