รอเคลียร์ความปลอดภัย หมู่บ้านใกล้ตาควายโดนเขมรรัวยิงBM21ถล่มเสียหายหนัก

สำรวจหมู่บ้านกระสุนตก ใกล้ตาควาย พบเสียหายหลายหลัง ยังไม่ให้ชาวบ้านเข้าพื้นที่ รอ EODสำรวจความปลอดภัยรอบแหล่งชุมชนยืนยันว่าปลอดภัย จึงสามารถเข้ามาได้
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านกระสุนตก ใกล้ปราสาทตาควาย ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารฝั่งกัมพูชา ระหว่างวันที่ 8-27 ธันวาคม 68 ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ก่อนที่การประชุม GBC ได้มีการลงนามข้อตกลงหยุดยิง เป็นเวลา 72 ชั่วโมง นับจากเวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค.68ที่ผ่านมา

นางสาววิมล แข่งเพ็ญแข ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่สีแดง ได้พาผู้สื่อข่าว ดูสภาพความเสียหายของบ้านเรือนและทรัพย์สินอื่นๆประชาชนที่ถูกสะเก็ดระเบิดจากกระสุนลูกปืนใหญ่ ที่ฝั่งกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้าน เสียหายจำนวนหลายหลัง ยังไม่รวมพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เพราะเป็นพื้นที่อันตรายที่รอการสำรวจ โชคดีช่วงระหว่างกระสุนตก ชาวบ้านอพพยออกไปกันหมดแล้ว
ขณะที่นางสาววิมล ผู้ใหญ่บ้านหญิงแกร่ง หมู่บ้านกระสุนตก กล่าวว่า การปะทะกันในครั้งนี้ หนักมาก ชุด ชรบ.ต้องกินนอนกันอยู่ในหลุมบังเกอร์หลบภัยตลอดช่วงที่มีการปะทะ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายหนักๆ ประมาณ 4-5 หลัง และที่โดนสะเก็ดระเบิดอีกประมาณ 10 กว่าหลัง ส่วนพื้นที่ทางการเกษตร ยังไม่ได้สำรวจ คาดว่าน่าจะเสียหายเยอะอยู่เหมือนกัน ส่วนประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้ให้เข้ามาตอนนี้ เพราะยังเป็นพื้นที่สีแดงอยู่ ต้องรอชุด EOD เข้ามาสำรวจ และแจ้งเป็นพื้นที่ปลอดภัยก่อน ถึงจะให้เข้ามาได้ ตามระเบียบเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่สีแดง

ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ว่า การสู้รบในรอบนี้ มีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ชายแดนเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องให้ตำรวจชุด EOD เข้าไปเคลียร์ในพื้นที่หมู่บ้านให้ปลอดภัย จึงจะให้ชาวบ้านกลับเข้าพื้นที่ได้ ส่วนด้านการเตรียมการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย ในด้านบ้านเรือน ทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยงเสียหาย สามารถใช้เงินงบสาธารณภัยฉุกเฉินช่วยเหลือได้เลย
ส่วนการจ่ายเงินชดเชยครอบครัวละ 5,000 บาท จังหวัดสุรินทร์ มีฐานข้อมูลผู้อพยพที่เคยลงทะเบียนไว้แล้วจำนวนกว่า 80,000 ครัวเรือน จึงไม่ต้องสำรวจใหม่ แต่ในรอบนี้มีผู้ประสบภัยเพิ่มขึ้นกว่า 100,000 ครัวเรือน จึงแจ้งให้ผู้ที่ยังไม่เคยได้ลงทะเบียนไว้ในรอบก่อนอีกกว่า 20,000 ครัวเรือนไปแจ้งกับผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อรวบรวมรายชื่อให้จังหวัดเสนอรัฐบาลช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยขอความเห็นชอบจาก กกต.พิจารณาและให้การช่วยเหลือประชาชนได้ครบทุกครัวเรือนต่อไป

.

