ตำรวจจับกุม 2 ผู้ต้องหาสวมรอยกล่องสุ่มพิมรี่พาย หลอกเหยื่อโอนเงิน

กล่องสุ่มพิมรี่พาย

ตำรวจจับกุม 2 ผู้ต้องหาสวมรอยกล่องสุ่มพิมรี่พาย หลอกเหยื่อโอนเงิน





ad1


วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 65 ที่สภ.ปากเกร็ด มีการแถลงข่าวจับกุมตัว นายปุณณพัฒน์ ยอดทอง อายุ 25 ปี ที่อยู่ 37/1 หมู่ 6 ตำบลห้วยนาง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 73/2565 ลงวันที่ 31 ม.ค.65 และนางสาวฟรี ย้อน ชอง อายุ 22 ปี สัญชาติไทย-มาเลเซีย ที่อยู่ 99/11 ตำบลโป่งอำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 72/2565 ลงวันที่ 31 มกราคม 2565 โดยกล่าวหาว่าทั้งสองคน "ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"   
.
    โดยจับกุม นายปุณณพัฒน์ ได้ที่ทำคอนโดลาดพร้าว ห้องเลขที่ 9/10 9/10 ลาดพร้าวซอย 101 แขวงคลองจั่น เขตลาดพร้าวกรุงเทพฯ ส่วนนางสาวฟรีย้อนช่อง จับกุมตัวได้ที่บริเวณร้านกาแฟริมถนนพัทยาใต้ สาย 3 ตำบลหนองปรืออำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี ตรวจยึดของกลาง 3 รายการ 1.สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารยูโอบี 2.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่น iPhone 12 3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPad mini 5
.
  พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รองผู้กำกับสส.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากก่อนถูกจับกุมตัวผู้เสียหายได้โพสต์ข้อความขอรับเงินคืนเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 65 ใน Application facebook ชื่อ "พิมรี่พายขายทุกอย่าง" จากนั้นได้มีคนร้ายซึ่งใช้ application facebook สวมชื่อ ของเพจพิมรี่พายติดต่อมายังผู้เสียหายและแอบอ้างว่าตนเองเป็นแอดมินของเพจดังกล่าว จากนั้นได้ส่งคิวอาร์โค้ดมาให้ผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นการรับคืนยอดจากบริษัทจำกัดพิมรี่พาย กรณีไม่พอใจสินค้าที่อยู่ในกล่องสุ่ม ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้สแกนคิวอาร์โค้ดดังกล่าวจำนวน 2 ครั้งเป็นเหตุให้เงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีธนาคารของนางสาวฟรี ย้อน ชอง จากนั้นนางสาวฟรีย้อน ชอง ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวของผู้เสียหายไปยังบัญชีของนายปุณณภัทร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายปุณณพัฒน์ เคยก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วหลายรายและมีประวัติต้องโทษทางคดีอาญาเกี่ยวกับทรัพย์อีกจำนวน 3 คดี คือ 1. ในเขต สภ.พระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช คดีฉ้อโกงทรัพย์ 2.สภ.ทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช คดีลักทรัพย์ และ 3 สน.หนองค้างพลู คดีฉ้อโกงประชาชน จึงได้รวบรวมหลักฐานทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้ได้ดังกล่าว
.
     ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ฝากเตือนถึงผู้ที่มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีหรือนำบัญชีของตนเองโดยใช้บัญชีเงินผ่านของกลุ่มมิจฉาชีพหรือผู้กระทำผิดกฎหมายซึ่งจะต้องรับโทษตามกฎหมายเทียบเท่าผู้กระทำความผิดโดยปัจจุบันพบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวจำนวนมากทั้งนี้ทางตำรวจภูธรภาค 1 จะดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวโดยใช้มาตรการลงโทษทางกฎหมายในฐานความผิดชั้นสูงสุดและดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินเพื่อเป็นแบบอย่างมิให้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวแก่สุจริตชนคนทำมาหากินและจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย
.
    นายนัฐวุฒิ ผู้เสียหายกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรไปแจ้งว่าจับคนร้ายได้แล้ว ก็ให้มาชี้ตัวและมาดูว่าจะคืนเงินให้หรือยังไง ตนรู้สึกดีใจได้รับข่าวดี เท่าที่ทราบผู้ต้องหาบอกว่าพร้อมที่จะมีเงินคืน ส่วนเรื่องคดีต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามกฎหมายต่อไป อาจจะต้องให้เขารับโทษเพราะสิ่งที่เขาทำมันเสียหายหลายส่วนไม่ใช่แค่ตัวตน อย่างพิมรี่พายก็เสียหายด้วยเพราะมาใช้ช่องทางนี้หาเงิน ตนได้พูดคุยกับผู้ต้องหานิดหน่อยว่าการทำของเขาแบบนี้ทำให้หลายคนเป็นทุกข์ เพราะทุกคนหาเงินมาด้วยน้ำพักน้ำแรง แต่เขาทำแบบนี้ใช้เวลาเพียงสั้นๆแต่เอาเงินไปใช้ส่วนตัวกับความสุขของเขาโดยไม่แคร์ความรุ้สึกของคนไทยด้วยกัน มันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ ตนไม่ได้ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร เห็นบอกกับตำรวจว่าเอาเงินไปใช้กินเที่ยวทั่วไป ซื้อเสื้อผ้าใส่ ตนก็จะะเอาเคสนี้ไว้เป็นบทเรียนกับการช้อปปิ้งออนไลน์ต่อไป ฝากถึงนักช้อปออนไลน์จะสั่งซื้ออะไรให้ดูเลขบัญชีอย่างเดียว แต่ถ้ามาเป็นบาร์โค้ดอย่างเดียวไม่แนะนำเลย ถ้าจะโอนก็ให้เข้าบัญชีเราอย่างเดียว
.
    ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจและภูมิใจที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ดและทางภาค 1 นำกำลังไปจับคนร้ายมาได้ ทำแบบนี้ดีอย่างหนึ่ง เพื่อทำให้เคสอื่นๆเป็นตัวอย่างบ้าง คดีนี้มีความเชื่อมโยงที่กัมพูชา และเขมร ทุกคดีที่ตนทำส่วนใหญ่ไม่มีวิ่งไปที่พม่าหรือลาวเลย อยู่แต่แถวนี้ 99% อาจต้องฝากถึงคนที่มีอำนาจเอาเครื่องบินรบไปจับพวกนี้มาให้หมดได้มั้ย ไม่ใช่ให้มันมาหลอกคนไทยแล้วหนีเข้าเขมร เคสแบบนี้ฝากบอกไว้เลยว่าวันนี้อาจจะไม่โดนจับ แต่วันพรุ่งนี้อาจจะโดนจับแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่ง แล้วไม่ว่าคุณจะเป็นบัญชีม้าอะไรก็ตาม ต่อให้คุณคืนเงินก็ติดคุกอยู่ดี อันนี้คือคำตัดสินของศาลฎีกาใหม่ รับโทษเท่ากับคนที่ฉ้อโกงเลย สภ.ปากเกร็ดของพิมรี่พายที่ติดต่อตนร่วม 10 รายได้ ไม่นับพื้นที่อื่น ที่อื่นไม่คืบหน้าเท่าที่ปากเกร็ดเลยไม่รู้ว่าทำไม เราป้องกันไม่ให้คนมาโกงเราไม่ได้หรอก แต่เราจะซื้อของกับใครต้องดูให้ดีๆ ไปทีวีทุกช่องก็ถามทุกช่องว่าป้องกันยังไงไม่ให้ถูกโกง ทำได้ดีที่สุดคือป้องกันตัวเอง เลือกเพจที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ เป็นเพจจริงมั้ย มีแอดมินจริงมั้ย และบัญชีปลายทางถ้าในกรณีเป็นบริษัทต้องเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือเป็นชื่อของคนที่เราคุยอยู่ เช่น เพจพิมรี่พายก็ต้องชื่อพิมรี่พายไม่ใช่ชื่อคนอื่น