ป๋าชูจัดหนัก!! เผาพริกเกลือสาปแช่งใครรับผลประโยชน์จากแก๊งจีนเทาขอให้พินาศตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด-ปล่อยให้แก๊งจีนเทาย่ำยีประเทศไทยอย่างกับมันเป็นเจ้าของประเทศ

แก๊งจีนเทาย่ำยีประเทศไทย

ป๋าชูจัดหนัก!!  เผาพริกเกลือสาปแช่งใครรับผลประโยชน์จากแก๊งจีนเทาขอให้พินาศตกนรกไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด-ปล่อยให้แก๊งจีนเทาย่ำยีประเทศไทยอย่างกับมันเป็นเจ้าของประเทศ





ad1

02 พ.ย. 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ได้แถลงเปิดเผยหลักฐานที่นำไปมอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่โรงแรมเดวิส  ยืนยันว่าตนเองมีพยานปากเอกคนสำคัญ ซึ่งเป็นคนไทยที่เคยทำงานกับนายตู้ห่าว แต่เกิดขัดผลประโยชน์กัน เนื่องจากนายตู้ห่าวไม่ยอมให้เงินค่าจ้าง จึงติดต่อเข้ามาหาตนเองเพื่อขอเป็นพยานในคดี ขณะนี้ตนเองไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของบุคคลดังกล่าวได้ เพราะเป็นพยานสำคัญต้องดูแลเรื่องความปลอดภัย และหากไม่มั่นใจบุคคลก็จะไม่เปิดเผยให้ทราบแน่นอน  

นายชูวิทย์ ได้ย้ำว่า ฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำสำนวนคดีดังกล่าวและการไล่ติดตามยึดทรัพย์ให้ทำงานอย่างโปร่งใสเป็นธรรม หากมีบุคคลใดที่ตั้งใจทำสำนวนให้อ่อน หรือทำให้นายตู้ห่าวได้รับการปล่อยตัวจากการฝากขังไม่ทันทั้ง 7 ผัด ตนเองมีข้อมูลของทุกคน ยืนยันว่าตนเองไม่ได้รับงานหรือรู้เห็นกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ตนเองมีข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการมามอบให้ และเห็นว่ากระบวนการดังกล่าวบ่อนทำลายประเทศจึงตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลและส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้นายชูวิทย์ยังเปิดเผยข้อมูลของนอมินีคนสำคัญของนายตู้ห่าว คือ นางสาวพัชรี โดยหลักฐานสำคัญคือเส้นทางการเงินของนายตู้ห่าว กับนางสาวพัชรี โดยให้ฝ่ายเทคนิคส่วนตัวดึงข้อมูลใน iCloud ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวลงมาตรวจสอบ แม้ว่าขบวนการนี้จะมีการทำลายพยานหลักฐานต่างๆ ไปบ้างแล้ว

โดยมีสัญญาระหว่างนายตู้ห่าวกับนางสาวพัชรี รายการซื้อขายและคุ้มครองที่ดินแทน มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เมื่อเดือนมีนาคม 2563 โดยให้นางสาวพัชรี เป็นคนออกเช็คจ่ายแทนนายตู้ห่าว เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีสำเนาเช็คที่นางสาวพัชรี เป็นคนเซ็นจ่ายจำนวน 5-6 ใบ และยังมีรายละเอียดการซื้อขายที่ดินหลายไร่ในปี 2561 และเมื่อนำไปเทียบกับเอกสารการเดินบัญชีธนาคารของนางสาวพัชรี พบว่ามีข้อมูลการจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคารและเช็คจำนวนเงินตรงกับรายละเอียดในเอกสารรายรับ-รายจ่ายของบริษัทนายตู้ห่าว

นายชูวิทย์ ยังได้วิจารณ์การทำงานของเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ไม่ยอมเข้าไปตรวจสอบภายในเครื่องบินเจ็ตของนายตู้ห่าว แต่กลับติดประกาศเป็นกระดาษ 3 ใบ โดยไม่ยอมเข้าไปตรวจสอบซึ่งผิดกฎหมายภายในเครื่องบิน ทั้งที่มีอำนาจในการตรวจค้น และเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการทำงานของหน่วยงานที่เข้าไปตรวจยึดเครื่องบินเป็นหน่วยงานแรกเป็นการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือเป็นการรู้เห็นกับผู้ต้องหา นายชูวิทย์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว และยกข้อมูลภาพถ่ายของอาคารบ้านพักแห่งหนึ่งในหุบเขากลางป่า โดยยืนยันว่าเป็นหน่วยงานแห่งหนึ่ง ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งได้เงินทุนมาจากต่างประเทศ ซึ่งจะเปิดเผยข้อมูลในครั้งต่อไป

นายชูวิทย์กล่าวอีกว่า พวกแก๊งจีนเทาตั้งสมาคมเถื่อน ตั้งมูลนิธิเถื่อน แต่งชุดทหาร ไปปรากฎตัวแล้วถ่ายรูปกับเจ้านาย ถ่ายรูปกับข้าราชการ แล้วนำไปแอบอ้างกับชาวจีน นำไปล่อเหยื่อ ใครอยากทำอะไรที่เมืองไทยให้ติดตนมา คนประเภทนี้ควรเลี้ยงไวไหมในเมืองไทย  แล้วขนเงินกันมาอย่างไรเป็นร้อยๆล้าน มันมีตั้งสำนักงานมีทนายความจากจีนพากันเข้ามา และใช้ิวิธีการเช่านอมินี  ทำอย่างกับว่าประเทศนี้เป็นของพวกมัน

นายชูวิทย์ยังเปิดคลิปปาร์ตี้โป้เปลือยให้นักข่าวดูเล็กน้อย โดยระบุว่ายังมีหลักฐานอีกเยอะซึ่งจะทยอยปล่อยหลักฐานต่อไป

หลังแถลงนายชูวิทย์ ได้ไปทำพิธีเผาหริกเผาเกลือ โดยกล่าวสาปแช่งว่าหากตนกระทำการเรื่องนี้โดยไม่สุจริตมีเบื้องหลังมีคนสั่งการก็ขอให้มีอันเป็นไป  แต่ถ้าใครหาประโยชน์จากเรื่องนี้ ถ้าหวังผลประโยชน์จากเรื่องนี้ บิดพลิ้วคดีนี้ กินเงินคดีนี้ ขอให้มันจงพินาศไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดตกนรกหมกไหม้ บ้านเมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าไม่รักบ้านเกิดเมืองนอน ตนก็ต้องสาปแช่ง เพราะเอาประโยชน์จากคนพวกนี้ทำร้ายบ้านตนเอง ผมก็ต้องสาปแช่ง  และถ้าคนพวกนี้ตายไปผมจะถวายสังฆทานไปให้ นายชูวิทย์กล่าวพร้อมชูสังฆทานให้นักข่าว