คืบหน้า รวบแล้ว 1 รายโจ๋ดุเมืองอุบล หลังก่อเหตุยิงกันสนั่นเมืองกว่า 70 นัด ดับ 2 เจ็บ 5 สาหัส 1-ชาวบ้านหนีตายวุ่น

04 ส.ค. 2565  เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 3 ส.ค. กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุนัดกันมาเคลียร์ปัญหาส่วนตัว ภายในร้านเนื้อย่าง ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี  บริเวณจุดเกิดเหตุ แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงมีการดวลปืนกันหน้าร้าน จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบรถกระบะ รถเก๋ง และรถจักรยานยนต์ รวม 5 คัน ได้รับความเสียหาย  ประชาชนพากันหนีตาย ต่างหาที่หลบกระสุน ท่ามกลางเสียงปืนดังขึ้นรัวๆ เป็นระยะกว่า 70 นัด เมื่อหาจังหวะได้ก็พยายามกรูกันไปหาทางหนีออกจากพื้นที่บริเวณหน้าร้านเนื้อย่าง ที่ลานจอดรถตลาดนิกรธานี ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อเสียงปืนสงบลง พบผู้บาดเจ็บ 5 ราย และผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด 2 ราย ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กบันทึกภาพบรรยากาศหลังเกิดเหตุไว้ นอกจากนี้ยังพบรถที่จอดอยู่ในลานจอดรถเสียหายหลายคัน

ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะตนเองกำลังทำงานอยู่ในร้านอาหารใกล้จุดเกิดเหตุ มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 70-100 นัด มีทั้งปืนสั้นและปืนยาว ตนเองและคนในร้านต้องหลบลงใต้โต๊ะ หนีตายอลหม่าน ประมาณ 5 นาที เสียงปืนสงบ ตนก็ออกมาดู พบผู้บาดเจ็บอยู่ที่ลานจอดรถ 2 คน และมีผู้บาดเจ็บในร้านข้าวต้มอีก 2 คน แต่ทราบว่ายังมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอีก ขณะที่รถของตนโดนยิงได้รับความเสียหายด้วย

พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ผบก.ภ.จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า เหตุยิงกันในครั้งนี้ จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีการนัดมาเคลียร์ปัญหากันในบริเวณดังกล่าว แต่การเจรจาไม่เป็นผล ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งมีการพกพาอาวุธปืนติดตัวมาด้วย ลงมือก่อเหตุยิงกัน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย , สาหัส 1 ราย และเสียชีวิตอีก 2 ราย

พล.ต.ต.สถาพร กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามรถจับกุมผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ 1 ราย ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวไปสอบสวน เพื่อขยายผลถึงบุคคลในกลุ่มที่เกี่ยวข้องแล้ว คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายได้ทั้งหมด

“การลงมือก่อเหตุของ ทั้ง 2 ฝ่าย ถือว่าอุกอาจมาก และคดีนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และ ผบ.ตร. ได้สั่งกำชับ และเร่งรัดให้จับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดำเนินคดีในทุกข้อหา โดยเฉพาะในเรื่องของการพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ รวมทั้งการก่อเหตุที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าว