สุุดอันตราย! ถนนครึ่งเหล็กครึ่งปูน  2เด็กหนุ่ม ขี่มอไซค์ลื่นพุ่งชนอัดราวเหล็กข้างทาง สังเวย 1 ศพ เจ็บสาหัส 1   ชาวบ้านร้องถนนนี้อุบัติเหตุหลายครั้งแล้ว ไม่มีคนมาแก้ไข จนต้องมีคนตาย

ถนนครึ่งเหล็กครึ่งปูน  2เด็กหนุ่ม ขี่มอไซค์ลื่นพุ่งชนอัดราวเหล็กข้างทางดับ 1 เจ็บ 1

สุุดอันตราย! ถนนครึ่งเหล็กครึ่งปูน  2เด็กหนุ่ม ขี่มอไซค์ลื่นพุ่งชนอัดราวเหล็กข้างทาง สังเวย 1 ศพ เจ็บสาหัส 1   ชาวบ้านร้องถนนนี้อุบัติเหตุหลายครั้งแล้ว ไม่มีคนมาแก้ไข จนต้องมีคนตาย





ad1

วันที่ 4 ต.ค. 2565  ร.ต.อ.นิรันทร์ สวัสดิ์ศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ. พระประแดง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนราวเหล็กข้างทาง ทำให้มี ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บริเวณถนนภายในซอยนครเขื่อนขันธ์ 2 มุ่งหน้าออกซอยสุขสวัสดิ์ 39  ซึ่งเป็นเส้นทางลัดผ่านชุมชนสุเหร่าบ้านปากลัด หมู่ที่ 18 ตำบลบางพึ่ง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานงานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
.
ที่เกิดเหตุเป็นถนนตัดผ่านในชุมชนซึ่งเป็นถนนกว้างประมาณ 5 เมตร และ ตรงกลางเป็นถนนเหล็กกว้าง ประมาณ 2 เมตร จุดเกิดเหตุอยู่ประมาณกลางซอยเข้าจากซอยมาประมาณ 200 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายรพีพัฒน์ เผ่าโนรี อายุ 15 ปี ( คนซ้อนท้าย) มีบาดแผลที่ใบหน้าขนาดใหญ่ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด ส่วนคนเจ็บทราบชื่อ นายสุกลกานต์ เผ่าโนรี อายุ 15 ปี ( คนขี่รถ ) ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ขาข้างซ้าย และ แน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูปฐมพยาบาลเร่งรัดนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีแดง หมายเลขทะเบียน 6 กษ 1033 กรุงเทพมหานคร จอดล้มอยู่กลางถนน สภาพด้านซ้ายได้รับความเสียหาย 
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ มีร่องรอยการล้มของรถจักรยานยนต์ตรงจุดเกิดเหตุ คือบนแผ่นเหล็ก และ ไถล ไปไกลกว่า 20 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียง พบว่ารถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต และ ผู้บาดเจ็บ ขี่มาแล้วเกิดเสียหลักลื่นเพราะช่วงนั้นมีฝนตกถนนลื่น โดยทำให้รถชนกับราวเหล็กข้างทางแล้วกระเด็นไปอัดกับราวเหล็กข้างทางจนเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง จากนั้นจึงมอบศพให้ญาติรับไปดำเนินพิธีกรรมตามศาสนาต่อไป
.
ทางด้าน นายอภิวิทย์ วรรณิกุล อายุ 24 ปี  เล่าว่า ตนเองอยู่ในบ้านเนื่องจากขณะนั้นฝนตก ได้ยินเพียงเสียงรถล้ม จึงออกมาดู ก็พบคนเจ็บ 2 คน 1 คน ยังขยับลุกขึ้นมานั่งได้ จนมูลนิธิมารับส่งโรงพยาบาล ส่วนอีก1 คน นอนแน่นิ่งไป และมีเลือดออกจำนวนมาก 
.
จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว โดยทางด้าน นายอภิวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า ถนนเส้นนี้ มีรถล้มประจำ แต่ก็มีครั้งนี้ ที่มีผู้เสียชีวิตเป็นรายแรก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาปรับปรุงแก้ไข เพราะเรื่องถนนเส้นนี้มีความอันตราย และ มีเรื่องราวมานานมากแล้ว จึงอยากฝากไปถามผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่าเมื่อไหร่จะมาแก้ไขสักที หรือ ต้องให้มีคนตายอีก ถึงจะเข้ามาปรับปรุง
.
นาย ศิริวัฒน์ เจริญยิ่ง อายุ 64 ปี  เล่าว่า ตนเองนั่งอยู่ร้านกาแฟ ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ในขณะนั้น เป็นช่วงที่ฝนกำลังตก อยู่ ๆ มี จยย. ขับผ่านหน้าตนไป แต่ขับมาไม่เร็ว เมื่อผ่านไปสักครู่ ตนเองก็ได้ยิน เสียงสะพานเหล็กดังคล้ายกระทบอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ได้ยินเสียง จยย. ล้ม ตนเองจึงรีบวิ่งตากฝนออกไปดู ก็เห็น จยย. ล้ม โดยมีคนเจ็บ 2 คน ทั้ง 2 คน แน่นิ่งไป ตนเองจึงตะโกนให้ชาวบ้านแถวนั้นออกมาช่วยกัน ไม่นาน ก็มีชาวบ้านออกมาจากบ้าน และ มาช่วยกันเรียกคนเจ็บทั้ง 2 คน จนมี 1 คน ฟื้นขึ้นมา และ บอกกับตนว่า " ผมเป็นคนขับ พื้นมันลื่น " ส่วนอีก 1คน นอนแน่นิ่งจมกองเลือด โดยเลือดออกจำนวนมาก และ ไม่มีการขยับ จนเจ้าที่กู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ ก็พบว่า คนเจ็บอีก1 คนนั้น ได้เสียชีวิตแล้ว  
.
โดย นาย ศิริวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า ถนนเส้นนี้ เป็นถนนตัดเข้าสู่ชุมชน ซึ่งแต่เดิม เป็นถนนขนาดเล็กสัญจรได้เพียงรถ จยย. แต่ทางหน่วยงานรัฐได้มีโครงการสร้างถนนใหญ่เพื่อให้สะดวกกับการสัญจร แต่ก็ไม่ได้เป็นถนนปกติเหมือนที่อื่น เนื่องจากถนนเส้นนี้ เป็นคอนกรีตซ้ายขวา ของถนน และ ตรงกลางนั้นเป็น เหล็ก เมื่อมีฝนตก แทบจะทุกครั้งก็จะเกิดอุบัติเหตุ จยย ลื้นล้ม บาดเจ็บเล็กน้อยจนถึงกระดูกหัก แต่ครั้งนี้หนักที่สุดเพราะถึงขั้นมีคนเสียชีวิต ตนเองและชาวบ้านส่วนใหญ่ จึงอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยลงมาแก้ปัญหากับถนนเส้นนี้สักที เพราะตั้งแต่ถนนเสร็จ ก็มีคนเจ็บมากมายนับไม่ถ้วน จนครั้งนี้ถึงขั้นมีคนตาย 
.
จากการสอบถาม นส.นุชจรี แจงพันธ์ อายุ 49 ปี (ใส่แมส) เล่าว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย ที่ผ่านมา ตนเองก็พึ่งเกิดอุบัติเหตุบนถนนเส้นนี้ โดยตนเองขี่จักรยานมา และมี จยย. ลื่นพื้นถนนเสียหลักมาชน จนตนเองได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและแน่นหน้าอก ทางด้าน นส.นุชจรี เปิดใจกล่าวว่า ถนนเส้นนี้ ไม่มีความปลอดภัย เนื่องจากเป็นถนนเหล็ก และ คอนกรีต อยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดความต่างระดับกันของถนน เวลามีฝนตก ทางเหล็กก็จะลื่น ทางที่เป็นคอนกรีตก็จะมีรถจอด ทั้งที่มีป้ายห้ามจอดมาติดตลอดทาง ตนเองอยากให้ผู้ที่มีอำนาจดูถนนเส้นนี้ ปรับถนนจากเหล็ก เป็นคอนกรีตทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของคนที่สัญจรผ่านไปมา ไม่ใช่แค่ผู้ขับขี่รถ จยย. เท่านั้น คนขี่จักรยานอย่างตนยังเกิดอุบัติเหตุได้เลย